3/21/14

ทริปเยี่ยมญาติ Japan 2014 : Yakiniku เวลาเนื้อย่าง เวลาสวรรค์







กลับมาถึงเกียวโตตอนทุ่มนึงเป่ะ ชาวคณะอิโตแฟมิลี่นั่งรอไปกินเนื้อย่างอยู่แล้ว วันนี้น้องสาวกลับบ้านเร็วเพื่อจะไปกินกับเราด้วยเพราะพรุ่งนี้น้องจะไปฟุกุโอกะแต่เช้าและจะกลับมาวันเรากลับพอดี ซึ่งเรากลับไฟล์ทเช้าน้องมาถึงบ้านตอนสายไม่ได้เจอกันแน่แล้วววว วันนี้เลยถือโอกาสไปเลี้ยงส่งเราด้วยเลย {(-_-)}、




เอาแผนที่ร้านมาแปะไว้ให้สีเขียวคือบ้านอายาริสีแดงคือร้านเนื้อย่าง ลงสถานีที่เห็นแล้วเดิน 10 นาทีจ้าาา




น้องสาวเอาของฝากมาให้บอกว่าเผื่อกลับมาไม่ทันเจอกันให้วันนี้เลยก็แล้วกัน คือดูดิ!บ้านก็ให้อยู่ฟรี ข้าวก็เลี้ยงแถมยังมีของฝากให้อีกอะไรจะน่ารักกันขนาดนี้อ่ะค๊าาาาาา

เสร็จขบวนการของฝากเราก็เดินตามม่าม้าไปกันต้อยๆ สักประมาณ 10 นาทีก็มาถึงร้านเนื้อย่างซึ่งชื่อร้านเป็นภาษาญี่ปุ่น แน่นอนว่าถ้ามาเองก็ไม่รู้หรอกว่านี้มันร้านอะไร
หน้าร้านดูเป็นบ้านคนธรรมดาถ้าเป็นร้านอาหารก็ธรรมดาเลยนะแต่พอขึ้นมาชั้นสองเท่านั้นแหละ แหมมม ! มันสัมผัสได้ถึงรังสีความหฤโหดของราคานะจ๊ะ 
น้องพนักงานที่มารับออร์เดอร์ก็น่ารักมากคือร้านนี้พนักงานใส่เครื่องแบบเป็นยูกาตะค่ะแล้วน้องหน้าเหมือนญารินดา  โห้ยยยยยย พอพนักงานเดินไปเรานี่หันไปบอกอายาริเลย พนักงานแม่งคาวาอี้ว่ะ !!! 




ถ่ายรูปครอบครัว





ชื่อร้านดูที่กระดาษหุ้มตะเกียบเอานะก๊ะ เค้าอ่านไม่ออก




ด้วยความที่เมนูเป็นภาษาญี่ปุ่นเลยยกให้เจ้าบ้านเค้าสั่งไปเลยเราอ่านออกคำเดียวคือ บี หรุ หรือ เบียร์นั่นเองงงงง น้องสาวสั่งเป็นเลม่อนผสมแอลกอฮอล์อร่อยมากกกก (คืออะไรที่เป็นแอลกอฮอร์สำหรับเรานี่อร่อยทุกอย่างสินะ) หลังจากหมดเบียร์แก้วโคตรใหญ่ของตัวเองแล้วเราก็สั่งแบบน้องสาวต่อ แหมมม!!! หลายขนานนะค่ะ 

จานแรกมาเป็นเนื้อสไลด์(แต่ส่วนไหนไม่รู้) มาพร้อมเลม่อน 4 ซีกเราก็มองว่าเลม่อนนั้นคือการประดับตกแต่งเฉยๆ แต่ !!!! เลม่อนที่ฝานมาเอามาเป็นซอสจ๊ะ ตอนแรกคิดว่าเนื้อย่างจิ้มมะนาวคือมันจะอร่อยเหรอว่ะ ? ญี่ปุ่นแม่งคิดอะไรแผลงๆ หลอกกูให้กินนัตโตะนั่นก็ทีนึงล่ะ ปรากฏว่าจิ้มตามและอร่อยมากจ้าาาาาา คนญี่ปุ่นนี่ล้ำเนอะรู้ได้ไงว่าเนื้อย่างแบบนี้ต้องจิ้มเลม่อนแล้วจะอร่อย 



ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ !!!!






เพื่อนรักไม่หักเหลี่ยมแต่นางโหดมากกกกกก




กินไปเม้าท์มอยไปจนกระทั่งถึงเวลาของหวาน เราสั่งเป็นพุดดิ้งเหมือนกันทั้งหมดสี่คน พอพนักงานมาเสิร์ฟมีไอติมชาเขียวถั่วแดงมาด้วยแอบงง กันนิดนึง สอบถามได้ความว่า วันนี้เป็นวันผู้หญิง (3 มีนาคม) สำหรับลูกค้าผู้หญิงเลยมีของแถมพิเศษให้ 
แหมมมม ขอเปลี่ยนเป็นเนื้อติดมันซัก4 จานได้ไหมคะ




หน้าเริ่มเมาแล้วววว




ออร์เดิฟกิมจิ 




เซ็ทแรกเนื้อวัว แต่ส่วนไหนไม่รู้นะ T_T





บนโต๊ะเนื้อย่างเราคุยกันถึงเรื่องคนญี่ปุ่นกินไข่ดิบแล้วราดลงบนข้าว ดราบอกว่าไข่ไทยกินดิบๆ ไม่ได้เพราะมันไม่สดและมีกลิ่นคาวเราอยากลองกินไข่ดิบแบบนี้บ้าง

ม่าม้าจัดให้จ้าาาา ระหว่างมางเดินกลับบ้านม่าม้าแวะซื้อไข่ที่ซุปเปอร์ด้วยแผงนึงหันหน้ามาบอกเราว่าพรุ่งได้กินแล้วนะปูจัง ฮ่าาาา




ซุปไข่+ข้าว อายาริสั่งมากลัวเราไม่อิ่ม





เซ็ทเครื่องใน





อันนี้พระเอกกับนางเอกของงาน ตอนปิ้งนี่ดังฉ่าาาา !!





ป้ายด้วยมิโสะแล้วห่อด้วยผักสไตล์เกาหลี





แม่ปิ้งให้กิน






นุ่มชุ่มลิ้นละมุนละไมมมมมมม





ซุปผักซักอย่าง






ปิดท้ายด้วยของหวาน





น้องสาวร่าเริง





โกจิโซซามะเดชิตะ ! ごじそうさまでした☆




เดินฝ่าลมหนาวกลับบ้านด้วยความอิ่มที่แทบจะกลิ้งแทนเดิน ( มันอิ่มอีพุดดิ้งกับไอติมชาเขียวนั่นแหละ) พรุ่งนี้อายาริทำงานช่วงเช้าส่วนเราก็จะไปตามรอยการ์ตูนตามประสา แล้วไปกินข้าวที่บ้านเพื่อนตอนเย็น ส่วนตอนนี้แยกย้ายกันไปนอนพรุ่งนี้ออกจากบ้าน 9 โมงอีกแว้ววววว ....


To be continue ......




No comments: