3/15/14

ทริปเยี่ยมญาติ Japan 2014 : Osaka มหานครแห่งการเอนเตอร์เทน





พวกเรายกโขยงออกจากโกเบประมาณหกโมงกว่าๆ มาถึงโอซาก้าก็ทุ่มกว่าหล่ะ เพื่อนพาไปย่านยอดฮิตเหมาะสำหรับวัยรุ่นอย่างเรา (หราาาาา) ย่านไรหว่าไม่เคยจำชื่อเลยรู้แต่ว่ามีกูลิโกะ ที่มานี่เพราะมีเป้าหมายคือซื้อเครื่องสำอางค์ (((o(*゚▽゚*)o))) วันนี้เราเอากระเป๋าเป้ไปเพราะวางแผนจะช้อปอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องถือหนักผลปรากฏว่าถือกับสะพายไม่ต่างกันไหล่แม่งแทบหลุด ;^_^A


เพื่อนพาไปถ่ายรูปคู่กับเทพเจ้าแห่งโอซาก้านั่นคือกูลิโกะนั่นเองเรามาโอซาก้าหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยมาย่านนี้พบว่าคนไทยเยอะมากแจ้ !!!!!!!!! ด้วยความที่อายาริทำงานที่ร้านอาหารไทยนางจะฟังรู้ว่านี่คือภาษาไทยแต่จะแปลไม่ออก นางจะสะกิด ปูๆ คนไทย ปูๆ คนไทยอยู่นั่นแหละ เราก็ขำนาง นี่หล่อนยังตื่นเต้นกับการได้เจอคนไทยอีกเหรอย่ะ 5555 


ท่ายอดฮิตสินะ ไม่ทำท่านี้ไม่ถ่ายกับป้ายนี้จะเหมือนว่ามาไม่ถึงโอซาก้า???




ถ้าฝันเห็นปูแล้วอยู่คนเดียวดีกว่า




เพื่อนพาเราตามล่าหาเครื่องสำอางค์ได้จนเกือบครบแล้วเหลืออย่างเดียวคือ SK II ถามสักสิบร้านจะมีแค่สองร้านคือขายดีมากหรือไม่เอามาขายไม่รู้นะ เราอยากได้ขนาดกลางแต่ร้านที่มีนั่นคือมีขนาดใหญ่ซึ่งแพงขึ้นอีกเกือบเท่าตัว อายาริถามว่าจะกลับไปดูที่เกียวโตไหมมีร้านเครื่องสำอางค์ที่ลดราคาด้วยนะ
คิดพักนึงเลยตัดสินใจซื้อที่นี่เลยดีกว่าจากราคา 14000 เยน เหลือ 11000 เยน นี่ก็ถือว่าถูกมากแล้ว และดิฉันก็เดินกระเป๋าเป้ตุงกระเป๋าตังเบาออกจากย่านวัยรุ่น 
มีความโชคดีคืออายาริบอกว่าไปดูราคาที่ร้านในเกียวโตมาแล้วพบว่าแพงกว่าที่เราซื้อที่โอซาก้านับว่าโชคดีมากค่ะ



ตอนแรกนึกว่าเป็นมาสคอตที่คนใส่ที่ไหนได้หุ่นยนต์ชัดๆ เลย



อันนี้เป็นมาสคอตประจำตึกนี้เพื่อนบอกป๊อปปูล่ามากๆ



เพื่อนรู้ว่าชอบอาราชิเลยพามาร้านที่ขายของค่าย JR โดยเฉพาะ



อาราชิไม่เท่าไหร่เจอ HSJ ไปป้าแทบกรี๊ดสลบอยู่หน้ร้าน ยามะ จังงงงง ♡




ช้อปกันหลังหักแล้วหลังจากนั้นเพื่อนถามคำถามที่ยากอีกแล้ววววว นั่นคืออยากกินอะไร?? มาถึงดินแดนแยงกี้แล้วก็ต้องทำอะไรแบบแยงกี้สิ เราบอกพวกนางไปว่าอยากไปบาร์แบบโลคัล เพื่อนจัดให้จ้าาาาา ด้วยความที่ทัคจัง(ย่อมาจากทาคุยะ)เป็นคนโอซาก้าโดยกำเนิดและเติบโตอยากไปไหนทำอะไรที่โอซาก้าขอให้บอกเดี๋ยวทัคจังจัดให้ !!!!!

ทัคจังพาไปที่สถานีนึงเราจำชื่อไม่ได้เดินอีกประมาณ 10 นาทีก็มาถึงร้านเหล้า ร้านที่มีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ กับโต๊ะยาวประมาณ 8 ที่นั่ง เราได้นั่งโต๊ะ 8 ที่นั่งที่มีโอจี้จังสองคนกำลังลุก และสองสามีภรรยายังนั่งอยู่ พวกเราคุยกันด้วยภาษาอังกฤษจนสามีภรรยาฝั่งตรงข้ามงง ว่าหน้าตาก็เอเชียทำไมสปีคอิงลิชกันล่ะหนู อายาริเลยบอกว่าเราคือคนไทยนะ สองคนนั้นตื่นเต้นใหญ่คนสามีบอกว่าเค้าชอบเมืองไทยมาก ชอบอาหารและทะเล หลังจากนั้นเราคุนกันอีกหลายเรื่องโดยมีอายาริเป็นทรานสเลเตอร์ ชอบบรรยากาศร้านแบบนี้ก็ตรงนี้แหละมันสร้างมิตรภาพได้คุยได้แลกเปลี่ยน มีหลายๆ ครั้งที่โอบ้าจังเจ้าของร้านเอาของมาให้พวกเราชิมบ่อยๆ พร้อมบอกว่าชิมสิอร่อยนะ ขอบคุณโอบ้าจังมากค่ะ \(^o^)/


บรรยากาศในร้านตอนประมาณ สามทุ่มกว่าๆ



เมนูภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ 



ปลาย่างมาเลยอันนี้เพื่อนแนะนำ




อันนี้เราชอบมากกกกเป็นปลาหมึกตัวเล็กๆ กินได้ทีเป็นแพ็ค อายาริรู้เลยสั่งให้จะให้อร่อยอย่าราดมายองเนสจ๊ะ



สามีภรรยากลับไปแล้วคณะใหม่มาเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่น 3 คนที่ดูเหมือนจะเมามาจากที่อื่นแล้ว คุยกันด้วยภาษาญี่ปุ่นโหวกเหวกเสียงดังอายาริบอกว่าสามคนนี้กำลังเม้าท์ผู้หญิงเพราะหนึ่งในนั้นโดนหักอกมา แต่ไม่ได้เม้าท์น่าเกลียดนะ แบบเหมือนด่าเพื่อนมากกว่าว่าแกนั่นแหละทำตัวงี่เง่าเอง (นี่ตรูก็เผือกเรื่องเค้ามากไปนะ v(^_^v)♪

สักพักแก้งค์เด็กหนุ่มหันหน้ามาจ้าาาาา ด้วยความที่โต๊ะมันเล็กมากมาจากคนละที่ถ้ามานั่งโต๊ะนี้เหมือนถูกบังคับว่ามึงต้องคุยกันนะ ! คนที่พูดภาษาอังกฤษได้หันมาถามเราว่าเธอเป็นคนไทยใช่ไหม ?? เราเลยถามกลับไปว่าทำไมถึงคิดว่าเราเป็นคนไทยเราเป็นเวียดนามนะ ฮ่าาาาา ฮียังไม่จบหันมาถามอายาริว่าเธอเป็นญี่ปุ่นใช่ไหม อายาริตอบว่าเปล่าฉันเป็นโคเรียนจ๊ะ ฮ่าาาาาา พวกฮีแอบเงิบและหันไปซดเหล้าต่อ เห็นไหมล่ะ่าร้านแบบนี้มันหาอะไรแปลกๆ มาให้จริงๆ 



เนื้อวาฬและทูน่าไม่ค่อยสดเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แย่มาก




โอเด้งเวอร์ชั่นกะหล่ำปลีห่อหมู




แตงกวาจิ้มมิโสะ




ปลาหมึกย่างเกลือ




ฟาดเรียบไม่มีเหลือ




ฉันกับนาง




พวกเราออกจากร้านประมาณห้าทุ่มครึ่งไปต่อสาย Hankyu ที่อุเมดะทันเที่ยวสุดท้ายพอดีกลับถึงบ้านก็หมดแรงไปตามๆ กันเพราะเดินเยอะมากกกกกก แถมมีถ่ายวีดีโอให้ทาโร่ด้วยไง พรุ่งนี้นัดทาโร่ 9 โมงเช้าไปคานาซาว่า 



9 โมงเช้าเลยเหรอออออ




To be continue.......


No comments: