เมื่อนานมาแล้วเราได้ดูรายการมาจิเด่ะเจแปนแล้วพิธีกรพาไปตึกแลนด์มาร์คที่โยโกฮาม่าเพื่อไปกินทสึเกเมน (ราเมนที่แยกน้ำกับเส้น) จากวันนั้นเราก็รู้สึกอยากกินทสึเกเมนมาตลอดเวลา ตั้งเป้าไว้ว่าถ้าไปญี่ปุ่นอีกจะต้องไปกินให้ได้ และต้องกินที่ตึกแลนด์มาร์คโยโกฮาม่าด้วยนะ ตามรอยมาจิเด่ะเจแปนนี่แหละ
จนได้ไปญี่ปุ่นช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็บอกเจ้าอ้วนว่าพาไปกินทสึเกเมนหน่อย นางก็พาไปนะแต่ไม่ใช่ที่ตึกแลนด์มาร์คแต่เป็นแถวบ้านแทน รสชาติโอเคนะมันช่วยทำให้ลดความอยากลงในระดับนึง แต่ถ้าได้กินที่นั่นตามที่ตั้งเป้าก็จะดีมากเลย
มาเมื่ออาทิตย์ก่อนเข้างานช่วงเช้าก็เลิกงานเร็ว พอเลิกเร็วมันก็มีแพลนเต็มไปหมด ตัดแพลนวิ่งออกไปเอาแพลนกินเข้ามาแทน เราวิ่งมาเยอะแล้วเราเหนื่อยเราอยากกิน ฮ่าๆๆ แล้วมันมีแว่บเข้ามาในสมองว่า ทสึเกเมนไหมเธออออออออ !!!!
แล้วจะไปหากินได้ที่ไหนว่ะ?!?!?!?
นี่ก็เสิร์ชกูเกิ้ลกันข้างถนนเลยจ้าาาา ด้วยพลังความอยากขั้นมหาศาลคือยังไงวันนี้ต้องได้กิน พิมพ์ ร้านทสึเกเมน ขึ้นมา 1 ร้านถ้วน !!! สุขุมวิท 39 ลงสถานีพร้อมพงษ์แล้วเดินไปอีกจิ๊ดนึง ไหนๆ ก็ไหนๆ เสิร์ชหาก็เจอแล้วจะอะไรก็ไปสิคะ
ร้านที่เราเสิร์ชเจอชื่อว่า Fujiyama go go (go มาจากเลข 5 ของญี่ปุ่น) จริงๆ แล้วร้านนี้มีหลายสาขานะ แต่สะดวกที่สุดสำหรับเราคงเป็นสุขุมวิท 39 นี่แหละ นั่งบีทีเอสมาลงสถานีพร้อมพงษ์แล้วเดินเข้าซอย 39 ระยะเวลาการเดินก็ประมาณ 10-20 นาที (ตามขนาดก้าวของแต่ละคน)
เรามาถึงสถานีพร้อมพงษ์ประมาณ 3 ทุ่มแล้วบอกเลยว่าสองข้างทางมืดมากกก มันไม่ได้ครึกครื้นเหมือนทองหล่อหรือสีลมเลยนะ ออกจะน่ากลัวเลย ซึ่งถ้าให้เรานั่งวินหรือรถสองแถวเราก็ลงไม่ถูกว่ามันอยู่ตรงไหน เพราะฉะนั้นการเดินคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรา
ถ้ามากับเพื่อนเยอะๆ ก็เดินคุยกันขำๆ แป่บเดียวก็ถึง แต่ถ้าห้าวมาคนเดียวแบบเราแนะนำว่ามาช่วงเย็นๆ จะดีกว่าเพราะมันมืดมากจริงๆ
มาถึงร้านเปิดประตูเข้าไปมีลูกค้านั่งอยู่ประมาณ 5-7 คน พนักงานทักทายเสียงดังฟังชัดทรงพลังมากไม่ว่าลูกค้าคนไหนจะขยับตัวจะได้ยินเสียงพนักงานตลอดเวลา คือเราว่ามันดีนะ แต่ด้วยความที่ร้านมันเล็กไง มันกลายเป็นว่าดังมาก จนบางทีเราก็แอบสะดุ้ง
พนักงานให้เมนูมานี่ก็ไม่รู้ว่ามีเมนูอะไรที่เด็ดๆ แนะนำบ้าง ก็เลยถามจากพนักงานพนักงานก็แนะแนะเป็นเมนูทสึเกเมนไหม ลูกค้าก็สั่งเยอะอยู่ ที่ดูไว้เป็นทสึเกเมนเปล่าๆ ไม่มีท้อปปิ้ง (มีหมูชาชูเล็กๆอยู่ในซุป) ราคา 260 บาท ซึ่งเราสามารถสั่งท้อปปิ้งเพิ่มได้ จะมีหมูชาชู, หน่อไม้, ต้นหอมซอย, สาหร่าย, ไข่ต้ม ราคา 30 บาทยกเว้นหมูที่ 50 บาท
เรากะว่าจะเพิ่มท้อปปิ้งเป็นหมูชาชู พนักงานเลยแนะนำว่ารับเป็นชุด 330 เลยไหมคุ้มกว่าได้ท้อปปิ้งทุกอย่างเลย ถ้าสั่งแยกจะแพงกว่านะ เราก็ตกลงเอาตามที่พนักงานแนะนำนั่นแหละ ก็นั่งรออาหารมาเสิร์ฟ
สักพักอาหารมาเสิร์ฟ แอบตกใจเล็กๆ คือมันใหญ่มากกกกก เยอะมากกกกก ผู้หญิงตัวเล็กคนเดียวยังไงก็กินไม่หมดว่ะแก !!!! แค่ท้อปปิ้งก็ล้นจานแล้วอะ แต่ทำไงละ ก็กินสิ ฮ่าๆๆๆ
เซ็ทนี้จะมีมาให้เราสองถ้วย คือชามราเมนที่โรยท้อปปิ้ง และถ้วยซุปที่เป็นซุปข้น ทุกโต๊ะจะมีเตาไฟฟ้าคล้ายๆ ร้านชาบูตั้งไว้ คือเอาไว้อุ่นน้ำซุปนั้นเอง เวลาเรากินๆ ไปจากน้ำซุปที่ร้อนๆ ก็จะค่อยๆ เย็นลง เราก็สามารถเอาถ้วยซุปไปวางบนเตาแล้วกดอุ่นได้เลย
ตอนกินแรกๆ ก็คีบเส้นจากชามราเมงมาจุ่มซุปแล้วเอาเข้าปากทีละคำ ทีละคำ อย่างสุนทรี พอเริ่มเหนื่อย เริ่มอิ่ม ก็เอาทุกอย่างในชามราเมงโยนใส่ถ้วยซุปและกินจากในนั้นแทน T..T
คือมันอิ่มมากจริงๆ แล้วท้อปปิ้งที่มาในชามเราก็กินไม่หมดด้วย เราว่าเซทนี้มันเหมาะกับการกินสองคนกำลังพอดี คราวหน้าถ้าไปกินอีกก็ต้องสั่งอะไรที่มันเล็กลง หรือสั่งอะไรที่เรากินจริงๆ
เดินออกจากร้านนี่แทบกลิ้ง
