8/29/16

Japan Summer 2016 : Tramonto - Italian cafe in Kyoto





วันนี้เกียวโตมีฝนตกปรอยๆ มาตั้งแต่เช้าแต่ว่าเรามีนัดกับยูเรียซังแล้วก็วากานะจังด้วยนัดกันที่บ้านอายาริตอน 10 โมง ยูเรียซังมาถึงก่อนสักพักวากานะจังก็ตามมา อายาริถามว่าอยากกินอะไร เป็นคำถามโลกแตกอีกแล้ว คิดยากจริงๆ กินมาเกือบหมดทุกอย่างแล้วมันเหลืออะไรน่าตื่นเต้นให้กินบ้างเนี่ย ฮ่าๆๆ 

อายาริเลยเสนอว่าวันนี้เราไปกินสปาเก็ตตี้กันไหมเดินจากบ้านไปได้ประมาณ 10 นาทีเท่านั้นเอง เลยตกลงว่าวันนี้พวกเรากินสปาเก็ตตี้กัน !!



แปะแผนที่ไว้ให้ค่ะ มาลงสถานี Kyotoshiyakusho mae ออกทางออกเกียวโตซิตี้ฮอลล์ได้เลย เดินมาด้านหลังแป่บเดียวก็เจอ :))



ถ้าไม่สังเกตดีอาจจะเดินเลยร้านได้ค่ะ เพราะร้านซ่อนตัวอยู่ในตึก เหมือนเป็นอพาร์ตเม้นท์หรือสำนักงาน ซึ่งเราต้องเดินเข้ามาด้านในของตึกก็จะเจอร้านค่ะ

ร้านชื่อว่า Tramonto トラモント
เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก น่าจะรับลูกค้าได้ไม่เกิน 15 ที่ โดยมีเจ้าของเป็นโอจี้ซังกับโอบ้าซังอายุประมาณ 60-70 ปีค่ะ โอจี้ซังเป็นเชฟ ส่วนโอบ้าซังก็ดูแลลูกค้าและเสิร์ฟอาหาร อายาริบอกว่าปกติมีพนักงานแค่สองคนในร้านคือโอบ้าซังกับโอจี้ซัง แต่วันนี้เห็นมีผู้ชายหนุ่มๆ ด้วยอีกคนนึงอาจจะเป็นพนักงานใหม่


ตอนที่ไปถึงมีลูกค้าอยู่ประมาณ 2 โต๊ะ อายาริเตือนมาก่อนแล้วว่าอาจจะต้องรออาหารนานหน่อย เพราะมีโอจี้ซังเป็นเชฟแค่คนเดียว เราก็โอเคไม่มีปัญหา (แต่ก็หิวมากแหละ ฮ่าๆๆ)


พอไปถึงโอบ้าจังก็เอาน้ำมาเสิร์ฟ คือเป็นผู้สูงอายุที่แข็งแรงมากกกกกก เสิร์ฟไปยิ้มไปพูดคุยหัวเราะกับลูกค้าดูมีความสุขกับการทำงาน อยากให้ทุกคนทำงานด้วยหัวใจแบบนี้ รวมถึงเราเองด้วย


โอบ้าซังเอาเมนูมาให้เป็นเมนูแบบกระดาษเอสี่เขียนมือ คาตาคะนะมารัวๆ ถามว่าอ่านได้ไหม?? อ่านได้ค่ะแต่กว่าจะอ่านสะกดแต่ละตัวออกคงได้กินพรุ่งนี้ มีความวินเทจสูง ฮ่าๆๆ ขอเมนูภาษาอังกฤษดีกว่า เมนูภาษาอังกฤษก็เป็นเอสี่แหละค่ะ แต่ใช้พิมพ์และเคลือบพลาสติก นี่ก็ยังมีกลิ่นอายความวินเทจเล็กๆ 


ในเมนูก็จะเป็นพวกอาหารอิตาเลี่ยน สปาเกตี้ พิซซ่า บลา บลา แล้วก็จะมีพวกกาแฟค่ะ อาหารจานเดียวแบบพวกสปาเกตตี้ก็จะมีสองไซส์คือเล็กกับใหญ่ พวกเราสั่งเป็นไซส์เล็กไป ราคาประมาณ 800-900 เยน  

ไปกันสี่คนจริงๆ ก็สั่งเป็นจานใหญ่สองจานมาแบ่งกันได้นะ แต่ด้วยความที่อยากชิมสปาเกตตี้หลายๆ แบบก็ตามนี้แหละ กินหมดหรือไม่หมดมาว่ากันอีกที 






สั่งอาหารผ่านไปสัก 5 นาที โอบ้าซังก็เอาออเดิร์ฟเป็นขนมปังมาเสิร์ฟก่อน เรานั่งแทะขนมปังเม้าท์มอยไปสักพัก ของโต๊ะข้างๆ ที่มาก่อนเราก็มาเสิร์ฟ สรุปรอไปเกือบชั่วโมงกว่าจานแรกจะมาาาาา !!! 

ของอายาริมาเสิร์ฟก่อนคนแรกเลย แต่ขอกรี๊ดก่อนเลยพออาหารมาเสิร์ฟก็งงว่านี่สั่งไซส์เล็กไปไม่ใช่เหรอ?!?! แต่มาแบบใหญ่มากกกก คนกินน้อยๆ แบ่งกินสองคนยังได้เลยอะ อยร.สั่งเป็นสปาเกตตี้ผัดใส่น้ำมันมะกอกคือมันแบบเพลนๆ มากเลย เราชิมไปคำนึง แก๊!!!!!! มันดีงามมมมมมม มันกินแล้วสดชื่น มันดีต่อใจ !!!! มันไม่เพลนแบบหน้าตา อยากเนียนกินของเพื่อนต่อแต่เดี๋ยวเพื่อนตบ ฮ่าๆๆ


ต่อมาเป็นของยูเรียซังเป็นแบบผัดซอสมะเขือเทศโอ้ยยยยยย !!! อันนี้ก็ดีงาม ในรสของซอสมะเขือเทศมันมีความนัวซ่อนอยู่ 


เรียงกันมารัวๆ ค่ะ ของวากานะจังเป็นผัดซอสอะไรซักอย่างแต่ผัดใส่ปลาหมึกสับลงไปด้วยดีงามอีกแล้ววววว อร่อยทุกจานเลย ในทุกจานของโอจี้ซังคือมันมีความนัวผสมอยู่ในเส้นสปาเกตตี้ ซอสที่ผัดต่างกันไปแต่ความสดชื่นความอร่อยมันเหมือนกันทุกจานเลย

สุดท้ายของเราเองคาโบนาร่า เฮ้ยยย โอจี้ซังใส่เบคอนมาเหมือนแจกฟรี เราแฮปปี้ เรามีความสุข ให้เราจ่ายจานละ 1500 เยนเราก็ยอม !!! 





















พอกินเสร็จเราก็ยังพร่ำเพ้อถึงร้านนี้อยู่ เราไม่เคยกินสปาเกตตี้ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน นี่พิมพ์ไปใจก็คิดถึง ฮืออออ

เราเคยดูซีรี่ย์เรื่องแบมบิโนะ ที่พระเอก(มัตซึ จุน) เข้ามาอยู่ในโตเกียวเพื่อจะเป็นเชฟร้านอาหารอิตาเลี่ยน เค้าฝึกทำสปาเกตตี้ทุกวันๆ ทำจนเก่งจนคนกินแล้วความรู้สึกปริ่มมันออกมาทางสีหน้ากินแล้วมีความสุข สดชื่น ตอนเราดูเรายังคิดเลยว่าสปาเกตตี้มันทำให้เรารู้สึกแบบนั้นได้ด้วยเหรอเว่อร์ไปป่าว วันนี้มากินร้านนี้ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว คือละครไม่ได้เว่อร์อะไรเลย คิดว่าถ้าสั่งอะไรมาอีกเราก็ยังจะกินได้อีกเรื่อยๆ เพราะมันดีจริงๆ


อายาริบอกว่าครั้งหน้าถ้ามาอีกก็ให้ชวนเพื่อนผู้ชายมาด้วยเราจะได้สั่งมาชิมเยอะๆ ได้ เพราะผู้ชายกินเยอะถ้าเรากินไม่หมดจะได้ช่วยกิน ฮ่าาาา





8/28/16

Japan Summer 2016 : AFURI Ramen Harajuku ราเมงส้มยูซุ



ออกตัวไว้ก่อนว่าเราเป็นคนที่ชอบกินราเมนมากกกกกกกกก มากสะจนมาโตเกียวรอบนี้กินทุกวันเลย วันละชามสองชาม กินจนรู้สึกว่าตัวเองท้องอืด ฮ่าๆๆๆ
แต่ก็ไม่ได้กินราเมนตามรีวิวอะไรมากมายนะ คือเรียกว่าหิวแล้วเดินผ่านร้านไหนพอดีก็จะเข้าไปกิน ดีบ้างเฟลบ้างในแบบฉบับของทราเวลเลอร์ ( ̄▽ ̄) 

แต่คือก่อนมาก็หาข้อมูลมาบ้างแหละว่าร้านไหนอร่อย ร้านไหนต้องกินอะไรแบบนี้ เพื่อที่ทราเวลเลอร์ก็จะได้ไม่เฟลตลอดทั้งทริปอะเนอะ 
หลักการเลือกร้านราเมนอร่อยๆ ตามแบบของเราคืออออออออ เดินทางสะดวก จบปึ้ง !!! ร้านไหนที่ต้องเข้าตรอกเข้าซอยตัดออกไปค่ะ ไม่ได้ฉลาดเดินตามป้ายลายแทงขนาดนั้น ฮ่าๆๆ และหวยก็มาออกที่ร้าน Afuri Ramen Harajuku :))

แอบแปะแผนที่ไว้ให้




วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่โตเกียวแล้วค่ะ นอกจากไปกินครีมพัฟโตโตโร่ที่สำเร็จไปหนึ่งอย่างแล้ว แผนที่เหลือแม่งเฟลหมดเลยเนื่องจากนอนไม่ตื่น ฮ่าๆๆ วันนี้เลยตื่นเช้าหน่อย (จริง ๆ ถ้าไม่ต้องเช็คเอ้าท์ก่อน 11 โมงก็คงยังนอนอยู่) ลงมาเช็คเอาท์เกือบ 11 โมงฝากกระเป๋าไว้ที่เกสเฮาส์แล้วไปอิเคะบุคุโระเผื่อกลับไปซื้อของติ่งตามออเดอร์ ฮ่าๆๆ 


เสร็จแล้วก็ได้เวลาไปตามล่าหาราเมนค่ะ 

ถ้าใครมีบัตรเมโทรแล้วก็นั่งเมโทรได้เลยค่ะ เรานั่ง Fukutoshin line จากอิเคบุคุโระ แป่บๆ ก็มาถึงสถานีเมจิจิงกุมาเอะ แต่ถ้าใครไม่ได้ใช้เมโทรก็นั่งเจอาร์มาลงที่สถานีฮาราจูกุเลยก็ได้ค่ะ อันนี้จะใกล้กว่า

เรานั่งมาถึงเมจิจิงกุแล้วก็งงว่าออกทางไหน คือสถานีญี่ปุ่นมันค่อนข้างใหญ่เนอะ ออกผิดชีวิตจบ ฮ่าๆๆ แต่ด้วยความที่ก่อนมาก็เช็คจากสตรีทวิวมาแล้วว่าร้านอยู่ตรงไหน ก็พุ่งตัวไปที่ป้ายแผนผังสถานีเลยค่ะว่าถ้าจะไปตรงนี้ๆ ต้องออกประตูไหน บอกเลยว่าเมื่อก่อนดูไม่เป็นโง่เรื่องทิศทางและการดูแผนที่มากกกกกก แต่เหมือนกับพอได้มาหลายๆ ครั้งมันก็ซึมซับเข้าไปสู่สมองน้อยๆ เองไปโดยปริยาย

เราคิดว่าด้วยความที่ราเมนร้านนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงเลยมีเขียนบอกตำแหน่งอยู่ในแผนผัง อันนี้โชคดีมากไม่ต้องเดินหาให้เหนื่อย เราเดินในสถานีตามป้ายทางออกมาเรื่อยๆ จะมาถึงทางออกก็โผล่มาเจอสถานีฮาราจูกุพอดี 
วันนี้วันศุกร์คนมาที่ฮาราจุกุเยอะมาก คนแน่นมาก เราเคยมาแล้วครั้งนึงเมื่อหลายปีที่แล้วพบว่าฮาราจุกุไม่ใช่แนวเรา ถ้าตัดพวกร้านอาหารแนวๆ คาวาอี้ออกไป เราว่าพวกเสื้อผ้าแฟชั่นที่ขายในฮาราจุกุเนี่ยมาซื้อแพลตตินั่มก็ได้เหมือนกันเด่ะแถมจะถูกกว่าด้วย 





วันนี้เราจะมากินราเมนซุปใส ปกติเวลาเรากินราเมนเราก็กินพวกทงคัตทสึ, มิโสะ, แบบที่น้ำข้นๆ ใช่ไหมคะ แต่ที่นี่จะมีเป็นซุปใสพวกซุปเกลือ ซุปส้มยูซุอะไรแบบนี้ซึ่งมันจะไม่เลี่ยนไงมันจะออกเปรี้ยว ๆ หน่อยสดชื่นเหมาะกับหน้าร้อน เราเคยกินราเมนซุปส้มยูซุที่คานาซาว่ามา คือมันอร่อยมากนะติดใจ
แต่ถ้าใครไม่ชอบอะไรที่เปรี้ยวๆ ก็คงไม่ค่อยถูกปากมั้งนะ 

จริงๆ ร้าน Afuri Ramen มีหลายสาขานะ แต่เราเลือกมาที่สาขานี้เพราะว่าเดินทางสะดวกด้วย และอีกอย่างคือจะมาจอนนี่ช้อปส์ที่ฮาราจุกุด้วย ฮ่าๆๆๆ แต่พอกินเสร็จปรากฏว่าหาจอนนี่ช้อปส์ไม่เจอค่าาาา อดไป (แต่จะว่าไปหาไม่เจอก็ดีนะ เพราะถ้าเจอเราต้องมีเสียเงินอีกแน่ๆ) 


วิธีการเดินทางก็ไม่ยากค่ะ เอาง่ายๆ ถ้าเราออกมาจากสถานีฮาราจุกุ ให้ข้ามถนนมาฝั่งทาเกะชิตะสตรีท หรือฮาราจุกุนั่นแหละ หันหลังให้ฮาราจุกุแล้วเดินมาทางขวามือของเราเลยค่ะ เดินมาเรื่อยๆ จนเจอสามแยกเนสกาแฟคาเฟ่อยู่ตรงหัวมุมถนน Afuri Ramen จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกันเลยค่ะ ร้านสีขาวมองเห็นง่ายๆ เลย

ในร้านจะมีประมาณ 10-15 ที่นั่งค่ะ เป็นเค้าท์เตอร์ทั้งหมดเลย จะมานั่งอ้อยอิ่งกินไปมอยไปไม่ได้ค่ะ ส่วนการสั่งก็เดินไปกดตั๋วที่ทิคเกตแมชชีนตามแบบร้านญี่ปุ่นทั่วไปค่ะ แล้วมายื่นให้พนักงานที่หน้าเค้าท์เตอร์



วันที่เราไปโชคดีไม่ต้องรอคิวนาน เดินเข้าไปแล้วมีโต๊ะนึงกำลังลุกไปพอดีได้เสียบแทนเลย แอบเอารูปจากพันทิพที่แปลเมนูภาษาไทยมาแปะไว้ให้ด้วยเผื่อว่าใครอยากไปตามรอยราเมน เพราะตู้ขายตั๋วเค้ามีแต่ภาษาญี่ปุ่นค่ะ
v
v
v

Cr.Tokyonist (pantip)


เมนูร้านนี้ไม่เยอะมากค่ะ ก็มีเท่าที่เห็นแหละที่เหลือก็พวกเบียร์ พวกกับแกล้มต่างๆ สั่งเพิ่มได้จากตู้กดเช่นกัน 


วันนี้เราสั่งทสึเกเมนซุปส้มยูซุไป ทสึเกเมนคือราเมนที่แยกเส้นกับซุปออกจากกัน วิธีกินก็คีบเส้นไปจุ่มในน้ำซุปแล้วก็กิน มันฟินตรงการได้ยกถ้วยซุปร้อนๆ ซดตามเข้าไป
น้ำซุปส้มยูซุมันจะเปรี้ยวๆ นิดนึงค่ะ อุดมไปด้วยงาขาวหัวหอมหั่นในถ้วย ใครเกลียดหัวหอมหรือผักมีกลิ่นให้ผ่านเมนูนี้ไปได้เลยเราว่าคุณไม่รอดว่ะ ฮ่าๆๆ


ในชามราเมนจะมีหมูชาชูว โนริ ไข่ยางมะตูมกับผักอะไรไม่รู้อะที่เค้าชอบใส่ในสลัด จะบอกว่าหมูอร่อยมากกกกกกกก มันมีความหวานนิดๆ นุ่มๆ แต่เอาจริงๆ หมูชาชูวในราเมนที่ญี่ปุ่นนี่อร่อยทุกร้านเลยเราว่า

ข้อดีคืออร่อย
ข้อเสียคือให้น้อยไปหน่อย
ถ้าเทียบกับร้านราเมนทั่วไปนะ ไซส์เล็กของร้านนี้ถือว่าเล็กมาก เรากินไม่อิ่ม (u_u)









กินอิ่มแล้วกลับไปเอากระเป๋าที่เกสเฮาส์ต่อ เดี๋ยวต้องไปชินจุกุนั่งไนท์บัสไปเกียวโตคืนนี้ อยากรีวิวบัสสเตชั่นใหม่ที่ชินจุกุ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย เสียใจจจจ