เดี๋ยวค่อยมาอีดิทนะ
6/16/17
6/14/17
Dating website : เว็บไซต์หาคู่
สวัสดีค่ะ
เว้นการอัพบล็อกไปนานมากเพราะว่าไม่รู้จะเหลาอะไร วันนี้เราเลยจะเขียนถึงเรื่องเว็บไซต์หาคู่ดีกว่า
เพราะเราคิดว่าเรามีประสบการณ์ด้านนี้อย่างโชกโชน ยาวหน่อยนะแต่อ่านเถอะ ฮ่าๆๆ
แรก ๆ ที่เริ่มเล่นแชททางอินเตอร์เน็ต ตอนนั้นอายุประมาณ 15 มั้งนะ เรียกว่าแรดแต่เด็กว่างั้นเหอะ
ตอนนั้นโปรแกรมฮิต ๆ สำหรับวัยรุ่นยุค 90 แบบเราคงหนีไม่พ้นโปรแกรมเพิร์ช เล่นไปก็นัดเจอไปด้วย
ตอนนั้นจำได้ว่านัดเจอไปประมาณ 3 คนนะ แต่เวลาไปนัดเจอใครก็จะพาเพื่อนไปด้วยตลอดนะ
อันนี้สำคัญมากอย่าไปคนเดียวเด็ดขาด อย่าได้เสี่ยงไปคนเดียวเชียว
เรายอมรับเลยว่าเมื่อก่อนการเล่นแชทแล้วนัดเจอมันปลอดภัยกว่าตอนนี้มาก
บางคนที่ได้เจอ keep contact กันจนถึงตอนนี้ก็มี
มีอยู่ช่วงนึงได้ไปทำงานที่ญี่ปุ่นเนอะ ก็เครซี่ผู้ญี่ปุ่นมากกกกก แต่จะไปหาผู้ญี่ปุ่นได้จากไหนละ ???
ก็เลยเสิร์ชเลย "หาแฟนญี่ปุ่น" ก็โผล่ขึ้นมาเว็บนึง ชื่อเว็บ Sawasdeekappom แต่นานมากแล้วนะ
เราไม่รู้ว่าตอนนี้เว็บนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า ก็เล่นไปเรื่อย ๆ อ่ะ มันเป็นเว็บฟรีนะเมื่อก่อน นัดเจอไปหลายคนมาก
เอาจริง ๆ ประมาณสิบคนเลย เป็นคนที่ทำงานอยู่ไทยบ้าง เป็นคนมาเที่ยวที่ไทยบ้าง
ได้เป็นแฟนจริง ๆ คนเดียว แต่ก็คบกันแค่ประมาณปีเดียวเองมั้ง
แต่ตอนนั้นยังไม่โดนเบิกเนตรโดยผู้ชาติอื่นไง ก็คิดว่าตัวเองสายญี่ปุ่นมาตลอด ฮ่าๆๆๆ
แต่ตอนนั้นก็เล่นอยู่เว็บเดียวนะถ้าหาผู้ญี่ปุ่น เพราะมันเป็นเว็บฟรี
ที่สามารถส่งข้อความถึงกันได้ เอาจริง ๆ ถ้าให้เสียตังนี่ไม่มีทางจ่ายเงินหาผู้แน่นอนค่ะ
พอเริ่มโตขึ้นผ่านประสบการณ์การทำงานและผ่านประสบการณ์เรื่องผู้มากขึ้น
พบว่าสายยุ่นสำหรับเราไม่ใช่แนวว่ะเลยเริ่มผันตัวเองมาเป็นสาย ฝ.
ซึ่งสาย ฝ.นี่มันมีเว็บหลากหลายกว่าสายยุ่นมากนัก ฮ่าๆๆ และก็มีเงื่อนไขแตกต่างกันไป
ถามว่าทำไมต้องหาผู้ผ่านเน็ต ไม่มีปัญญาหาผู้ในชีวิตจริงเหรอ???
ถ้าเป้าหมายในชีวิตเราคือมีแฟนแต่งงานกับคนไทย ป่านนี้คงมีลูกเป็นโหลไปล่ะ
เป้าหมายเรามันชัดเจนไงแกเราไม่อยากมีแฟนคนไทย
ซึ่งตรงนี้มันก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคนเนอะ
ถามว่าผู้ไทยไม่ดีตรงไหน ผู้ไทยไม่ใช่ไม่ดีค่ะ แต่เราเองที่ไม่ดีพอสำหรับผู้ไทย ฮ่าๆๆ
แล้วอยากมีแฟนต่างชาติต้องไปหาที่ไหนละ ?? ไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ ข้าวสาร
ไม่ได้ทำงานที่คอนแทคกับชาวต่างชาติ ไม่มีเพื่อนแนะนำให้
ไม่มีโอกาสไปเรียนหรือทำงานต่างประเทศทางเดียวที่ทำได้คือเปิดเน็ตแล้วเสิร์ชค่ะ
ซึ่งทางเรามองว่าการหาแฟนทางอินเตอร์เน็ตไม่ใช่เรื่องผิดบาป ไม่ใช่เรื่องประหลาดไม่ว่ายุคไหน ๆ นะ
เรามองมันเป็นเรื่องธรรมดาตั้งแต่อายุ 15 ที่เริ่มเล่นเพิร์ชแล้ว เพียงแต่เราต้องระวังตัวหน่อยเท่านั้นเอง
เว็บที่เล่นแรก ๆ เลยคือ
Thailovelinks.com
Dateinasia.com
ซึ่งสองเว็บนี้เล่นได้ทั้งฟรีและแบบเสียเงิน ถ้าเราเป็นสมาชิกที่เล่นฟรีเวลามีคนส่งข้อความมาหาเรา
เราจะไม่สามารถอ่านข้อความได้ถ้าคนที่ส่งมาเป็นสมาชิกแบบฟรีเช่นกัน
แต่ถ้าสมาชิกที่เป็นวีไอพีแชทมาเราจะสามารถอ่านได้ค่ะ เราไม่ได้ผู้จากเว็บนี้
เพราะเท่าที่มีทักมาสแกมเมอร์บ้าง เป็นสมาชิกแบบธรรมดาบ้างซึ่งเราเองก็ธรรมดา
ทำให้อ่านข้อความไม่ได้ก็บัยส์จ๊ะ ฮ่าๆๆ แต่จริง ๆ ก็จะมีเว็บที่เล่นอีกหลาย ๆ เว็บประปรายนะ
แต่ที่ยกตัวอย่างมาคือเล่นบ่อยสุดละ
หรือจะเป็นเว็บทั่ว ๆ ไปที่มีแอพลิเคชั่นในมือถืออย่าง Tinder หรือ Btalk อันนี้ก็ง่ายขึ้นมาหน่อยค่ะ
ไม่ต้องเข้าเว็บ เล่นในมือถือหาผู้ไปขณะรอรถเมล์ว่าง ๆ ได้ แต่สำหรับเราสองแอพนี้ไม่ค่อยโดนใจ
รู้สึกว่าจะมีแต่เด็กเล่นเยอะไปหน่อย แต่ถามว่ามีคนได้ผู้ดี ๆ จากสองแอพนี้เยอะไหม
ต้องบอกว่าเยอะค่ะแต่อย่างที่บอกสำหรับเราไม่เหมาะ โหลดมาแล้วก็ลบทิ้งไปละ
มาดูเว็บหรือแอพที่เราใช้บ่อย ๆ แบบฟรีกันบ้าง จะมี
Thaifriendly อันนี้มีแอพในมือถือนะลองเสิร์ชกันดู อันนี้สามารถแชทได้ฟรีค่ะไม่เสียเงิน
เข้าไปอ่านโพรไฟล์หรือดูรูปก่อนได้ค่ะ เคยได้คนคุยมาจากเว็บนี้ด้วย
แต่พอคุยกันพักนึงแล้วพบว่าการเล่นเว็บเดทมีเป้าหมายที่ต่างกัน ก็เลยหยุดคุยดีกว่า
ถ้าจะเล่นเว็บพวกนี้ต้องระวังนิดนึงอะไรที่มันง่าย ๆ มันไม่ได้รับการตรวจสอบมันค่อนข้างจะอันตราย
Thaiflirting.com ส่วนตัวเราได้ผู้เยอรมันมาจากเว็บนี้ ไม่มีแอพบนมือถือนะคะ เข้าเว็บอย่างเดียว
แต่จะบอกว่าถ้าเทียบกับเว็บสองอันแรกที่บอกไปด้านบน เว็บนี้ผู้น้อยกว่ามากค่ะ
แต่มันดีตรงที่มันฟรี จะแชท จะส่งข้อความมันก็ง่าย
มาถึงช่วงเตือนใจเพื่อนสาว
สำหรับบล็อกนี้ก็ประมาณนี้เนอะ ใครมีข้อคิดเห็นหรืออะไรเพิ่มเติมก็บอกกันมาได้เลยค่ะ
เพราะอันนี้เราเขียนจากประสบการณ์ตัวเองล้วน ๆ เลย
แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้านะคะ
สวัสดีค่ะ
เว้นการอัพบล็อกไปนานมากเพราะว่าไม่รู้จะเหลาอะไร วันนี้เราเลยจะเขียนถึงเรื่องเว็บไซต์หาคู่ดีกว่า
เพราะเราคิดว่าเรามีประสบการณ์ด้านนี้อย่างโชกโชน ยาวหน่อยนะแต่อ่านเถอะ ฮ่าๆๆ
แรก ๆ ที่เริ่มเล่นแชททางอินเตอร์เน็ต ตอนนั้นอายุประมาณ 15 มั้งนะ เรียกว่าแรดแต่เด็กว่างั้นเหอะ
ตอนนั้นโปรแกรมฮิต ๆ สำหรับวัยรุ่นยุค 90 แบบเราคงหนีไม่พ้นโปรแกรมเพิร์ช เล่นไปก็นัดเจอไปด้วย
ตอนนั้นจำได้ว่านัดเจอไปประมาณ 3 คนนะ แต่เวลาไปนัดเจอใครก็จะพาเพื่อนไปด้วยตลอดนะ
อันนี้สำคัญมากอย่าไปคนเดียวเด็ดขาด อย่าได้เสี่ยงไปคนเดียวเชียว
เรายอมรับเลยว่าเมื่อก่อนการเล่นแชทแล้วนัดเจอมันปลอดภัยกว่าตอนนี้มาก
บางคนที่ได้เจอ keep contact กันจนถึงตอนนี้ก็มี
มีอยู่ช่วงนึงได้ไปทำงานที่ญี่ปุ่นเนอะ ก็เครซี่ผู้ญี่ปุ่นมากกกกก แต่จะไปหาผู้ญี่ปุ่นได้จากไหนละ ???
ก็เลยเสิร์ชเลย "หาแฟนญี่ปุ่น" ก็โผล่ขึ้นมาเว็บนึง ชื่อเว็บ Sawasdeekappom แต่นานมากแล้วนะ
เราไม่รู้ว่าตอนนี้เว็บนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า ก็เล่นไปเรื่อย ๆ อ่ะ มันเป็นเว็บฟรีนะเมื่อก่อน นัดเจอไปหลายคนมาก
เอาจริง ๆ ประมาณสิบคนเลย เป็นคนที่ทำงานอยู่ไทยบ้าง เป็นคนมาเที่ยวที่ไทยบ้าง
ได้เป็นแฟนจริง ๆ คนเดียว แต่ก็คบกันแค่ประมาณปีเดียวเองมั้ง
แต่ตอนนั้นยังไม่โดนเบิกเนตรโดยผู้ชาติอื่นไง ก็คิดว่าตัวเองสายญี่ปุ่นมาตลอด ฮ่าๆๆๆ
แต่ตอนนั้นก็เล่นอยู่เว็บเดียวนะถ้าหาผู้ญี่ปุ่น เพราะมันเป็นเว็บฟรี
ที่สามารถส่งข้อความถึงกันได้ เอาจริง ๆ ถ้าให้เสียตังนี่ไม่มีทางจ่ายเงินหาผู้แน่นอนค่ะ
พอเริ่มโตขึ้นผ่านประสบการณ์การทำงานและผ่านประสบการณ์เรื่องผู้มากขึ้น
พบว่าสายยุ่นสำหรับเราไม่ใช่แนวว่ะเลยเริ่มผันตัวเองมาเป็นสาย ฝ.
ซึ่งสาย ฝ.นี่มันมีเว็บหลากหลายกว่าสายยุ่นมากนัก ฮ่าๆๆ และก็มีเงื่อนไขแตกต่างกันไป
ถามว่าทำไมต้องหาผู้ผ่านเน็ต ไม่มีปัญญาหาผู้ในชีวิตจริงเหรอ???
ถ้าเป้าหมายในชีวิตเราคือมีแฟนแต่งงานกับคนไทย ป่านนี้คงมีลูกเป็นโหลไปล่ะ
เป้าหมายเรามันชัดเจนไงแกเราไม่อยากมีแฟนคนไทย
ซึ่งตรงนี้มันก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคนเนอะ
ถามว่าผู้ไทยไม่ดีตรงไหน ผู้ไทยไม่ใช่ไม่ดีค่ะ แต่เราเองที่ไม่ดีพอสำหรับผู้ไทย ฮ่าๆๆ
แล้วอยากมีแฟนต่างชาติต้องไปหาที่ไหนละ ?? ไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ ข้าวสาร
ไม่ได้ทำงานที่คอนแทคกับชาวต่างชาติ ไม่มีเพื่อนแนะนำให้
ไม่มีโอกาสไปเรียนหรือทำงานต่างประเทศทางเดียวที่ทำได้คือเปิดเน็ตแล้วเสิร์ชค่ะ
ซึ่งทางเรามองว่าการหาแฟนทางอินเตอร์เน็ตไม่ใช่เรื่องผิดบาป ไม่ใช่เรื่องประหลาดไม่ว่ายุคไหน ๆ นะ
เรามองมันเป็นเรื่องธรรมดาตั้งแต่อายุ 15 ที่เริ่มเล่นเพิร์ชแล้ว เพียงแต่เราต้องระวังตัวหน่อยเท่านั้นเอง
เว็บที่เล่นแรก ๆ เลยคือ
Thailovelinks.com
Dateinasia.com
ซึ่งสองเว็บนี้เล่นได้ทั้งฟรีและแบบเสียเงิน ถ้าเราเป็นสมาชิกที่เล่นฟรีเวลามีคนส่งข้อความมาหาเรา
เราจะไม่สามารถอ่านข้อความได้ถ้าคนที่ส่งมาเป็นสมาชิกแบบฟรีเช่นกัน
แต่ถ้าสมาชิกที่เป็นวีไอพีแชทมาเราจะสามารถอ่านได้ค่ะ เราไม่ได้ผู้จากเว็บนี้
เพราะเท่าที่มีทักมาสแกมเมอร์บ้าง เป็นสมาชิกแบบธรรมดาบ้างซึ่งเราเองก็ธรรมดา
ทำให้อ่านข้อความไม่ได้ก็บัยส์จ๊ะ ฮ่าๆๆ แต่จริง ๆ ก็จะมีเว็บที่เล่นอีกหลาย ๆ เว็บประปรายนะ
แต่ที่ยกตัวอย่างมาคือเล่นบ่อยสุดละ
หรือจะเป็นเว็บทั่ว ๆ ไปที่มีแอพลิเคชั่นในมือถืออย่าง Tinder หรือ Btalk อันนี้ก็ง่ายขึ้นมาหน่อยค่ะ
ไม่ต้องเข้าเว็บ เล่นในมือถือหาผู้ไปขณะรอรถเมล์ว่าง ๆ ได้ แต่สำหรับเราสองแอพนี้ไม่ค่อยโดนใจ
รู้สึกว่าจะมีแต่เด็กเล่นเยอะไปหน่อย แต่ถามว่ามีคนได้ผู้ดี ๆ จากสองแอพนี้เยอะไหม
ต้องบอกว่าเยอะค่ะแต่อย่างที่บอกสำหรับเราไม่เหมาะ โหลดมาแล้วก็ลบทิ้งไปละ
มาดูเว็บหรือแอพที่เราใช้บ่อย ๆ แบบฟรีกันบ้าง จะมี
Thaifriendly อันนี้มีแอพในมือถือนะลองเสิร์ชกันดู อันนี้สามารถแชทได้ฟรีค่ะไม่เสียเงิน
เข้าไปอ่านโพรไฟล์หรือดูรูปก่อนได้ค่ะ เคยได้คนคุยมาจากเว็บนี้ด้วย
แต่พอคุยกันพักนึงแล้วพบว่าการเล่นเว็บเดทมีเป้าหมายที่ต่างกัน ก็เลยหยุดคุยดีกว่า
ถ้าจะเล่นเว็บพวกนี้ต้องระวังนิดนึงอะไรที่มันง่าย ๆ มันไม่ได้รับการตรวจสอบมันค่อนข้างจะอันตราย
Thaiflirting.com ส่วนตัวเราได้ผู้เยอรมันมาจากเว็บนี้ ไม่มีแอพบนมือถือนะคะ เข้าเว็บอย่างเดียว
แต่จะบอกว่าถ้าเทียบกับเว็บสองอันแรกที่บอกไปด้านบน เว็บนี้ผู้น้อยกว่ามากค่ะ
แต่มันดีตรงที่มันฟรี จะแชท จะส่งข้อความมันก็ง่าย
มาถึงช่วงเตือนใจเพื่อนสาว
- การเล่นเว็บเดทอย่างแรกเลยเราต้องได้ภาษาอังกฤษบ้างค่ะมาอยู่ ๆ เห็นรูปโพร์ไฟล์หล่อ ๆทักเค้าไปไม่รู้สี่รู้แปดภาษาอังกฤษมืดแปดด้าน ไม่มีใครเค้าอยากคุยด้วยนะ เท่าที่คุยกับผู้มาหลายคนเค้าบอกนะว่าเจอคนสวย ๆ หลายคนแต่ต้องจบการสนทนากันไปเพราะไม่สามารถสื่อสารกันได้
- เล่นเว็บเดทต้องเล่นอย่างมีสตินะคะ เราพูดได้เพราะเราเคยไม่มีสติมาก่อน ฮ่าๆๆ อย่าไปเชื่อผู้คนไหนที่บอกรักตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน มันไม่มีจริงนะ หรือแม้แต่คุยกันผ่านตัวอักษรมานานแล้วแต่ไม่เคยเห็นหน้าอันนี้ก็อย่าเพิ่งไปปักใจเชื่อค่ะ มันก็จะมีประเภทไม่ยอมเปิดกล้องคุยกับเรา จำไว้นะคะถ้าไม่ยอมเปิดกล้องอย่าหลงไปมีใจเด็ดขาด
- อันนี้เจอบ่อยมาก และก็มีคนหน้ามืดตามัวบ่อยมากด้วย คือการหลอกให้โอนเงิน มันไม่มีจริงโว้ยยย คนที่ส่งของมาให้แกแล้วแกต้องเอาเงินโอนไปไถ่ออกมา ถ้าเจอมารูปแบบนี้ตั้งแต่แรกก็ควรเผ่นจ้า
สำหรับบล็อกนี้ก็ประมาณนี้เนอะ ใครมีข้อคิดเห็นหรืออะไรเพิ่มเติมก็บอกกันมาได้เลยค่ะ
เพราะอันนี้เราเขียนจากประสบการณ์ตัวเองล้วน ๆ เลย
แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้านะคะ
สวัสดีค่ะ
6/5/17
Start Deutsch A1 : ด่านที่ต้องผ่าน
เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราไปสมัครเรียนภาษาเยอรมันที่เกอร์เธ่มาค่ะ
เปิดรับสมัคร วันที่ 3 มิถุนายนเป็นวันแรก (สำหรับคอร์สของเดือนกรกฎาคม)
ไปถึงพบว่าคิวค่อนข้างยาวค่ะ เรารอประมาณ 5-6 คิวได้ แต่คิวก็รันค่อนข้างเร็วเหมือนกัน
ประมาณ 20 นาทีก็ถึงคิวค่ะ เราเลือกเรียนคอร์สสุดสัปดาห์ เรียนทุกวันเสาร์ 8.30-12.00
(ตื่นเช้ากว่าไปทำงานอีกนะเนี่ย)
สำหรับคอร์สสุดสัปดาห์นี้เราจ่ายไป 5200 บาท (ซึ่งถ้าเรียนหลักสูตรเร่งรัดก็จะแพงกว่านี้ค่ะ)
มีค่าลงทะเบียน 400 บาท และค่าหนังสือ 1480 บาทซึ่งราคานี้เป็นราคาสำหรับนักเรียนเกอร์เธ่
เอาใบเสร็จที่ลงทะเบียนไปยื่นได้เลย แต่ว่าหนังสือเราจะซื้อวันหลังก็ได้ ตามแต่เราสะดวก
ร้านหนังสือในเกอร์เธ่จะเป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ตรงแคนทีน รวมทุกอย่างเราจ่ายไปทั้งหมด 7080 บาท
ราคานี้จะเป็นราคาของคอร์สสุดสัปดาห์นะคะ ถ้าเป็นคอร์สอื่น ราคาก็จะต่างไปอีก
เข้าไปดูรายละเอียดได้ในเว็บของสถานทูตค่ะ https://www.goethe.de/thailand
นอกจากนี้เรายังนำใบเสร็จไปสมัครสมาชิกห้องสมุดได้ฟรีด้วยค่ะ ระยะเวลาสมาชิกคือ 1 ค่ะ
วางแผนไว้ว่าจะต้องสอบ A1 ให้ผ่าน (แค่เปิดหนังสือมาหน้าแรกก็งงแล้วค่ะไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน)
ซึ่งคนที่เรียนสัปดาห์ละวันเปอร์เซ็นต์การสอบผ่านมีน้อยมากเลยจากการที่อ่านรีวิว จะรอดไหมนะ !!!
เพราะสิ่งที่เราต้องการจะได้หลังจากที่เราผ่าน A1 แล้วเท่านั้น
หลังจากนี้ก็จะต้องพยายามมากขึ้น สินะ
เปิดรับสมัคร วันที่ 3 มิถุนายนเป็นวันแรก (สำหรับคอร์สของเดือนกรกฎาคม)
ไปถึงพบว่าคิวค่อนข้างยาวค่ะ เรารอประมาณ 5-6 คิวได้ แต่คิวก็รันค่อนข้างเร็วเหมือนกัน
ประมาณ 20 นาทีก็ถึงคิวค่ะ เราเลือกเรียนคอร์สสุดสัปดาห์ เรียนทุกวันเสาร์ 8.30-12.00
(ตื่นเช้ากว่าไปทำงานอีกนะเนี่ย)
สำหรับคอร์สสุดสัปดาห์นี้เราจ่ายไป 5200 บาท (ซึ่งถ้าเรียนหลักสูตรเร่งรัดก็จะแพงกว่านี้ค่ะ)
มีค่าลงทะเบียน 400 บาท และค่าหนังสือ 1480 บาทซึ่งราคานี้เป็นราคาสำหรับนักเรียนเกอร์เธ่
เอาใบเสร็จที่ลงทะเบียนไปยื่นได้เลย แต่ว่าหนังสือเราจะซื้อวันหลังก็ได้ ตามแต่เราสะดวก
ร้านหนังสือในเกอร์เธ่จะเป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ตรงแคนทีน รวมทุกอย่างเราจ่ายไปทั้งหมด 7080 บาท
ราคานี้จะเป็นราคาของคอร์สสุดสัปดาห์นะคะ ถ้าเป็นคอร์สอื่น ราคาก็จะต่างไปอีก
เข้าไปดูรายละเอียดได้ในเว็บของสถานทูตค่ะ https://www.goethe.de/thailand
นอกจากนี้เรายังนำใบเสร็จไปสมัครสมาชิกห้องสมุดได้ฟรีด้วยค่ะ ระยะเวลาสมาชิกคือ 1 ค่ะ
วางแผนไว้ว่าจะต้องสอบ A1 ให้ผ่าน (แค่เปิดหนังสือมาหน้าแรกก็งงแล้วค่ะไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน)
ซึ่งคนที่เรียนสัปดาห์ละวันเปอร์เซ็นต์การสอบผ่านมีน้อยมากเลยจากการที่อ่านรีวิว จะรอดไหมนะ !!!
เพราะสิ่งที่เราต้องการจะได้หลังจากที่เราผ่าน A1 แล้วเท่านั้น
หลังจากนี้ก็จะต้องพยายามมากขึ้น สินะ
Subscribe to:
Posts (Atom)