10/15/15

Japan Summer 2015 : Back to Kyoto - เกียวโตจ้า...ข้ามาแล้ววววว


 
เจ้าอ้วนกลับมาถึงบ้านประมาณ 6 โมงเย็นเก็บกระเป๋า คืนนี้เราจะไปเกียวโตกันค่ะ เจ้าอ้วนจองไนท์บัสของ willer bus เอาไว้ (ยิ่งจองล่วงหน้ามากตั๋วยิ่งถูกมากเราจองล่วงหน้าประมาณ 3 เดือนสำหรับเราจองตั๋วไป กลับ ประมาณ 1 หมื่นเยนต่อคนเท่านั้น สำหรับแบคแพคเกอร์เราแนะนำเลย) ซึ่งเราต้องไปขึ้นรถที่สถานีคาวาซากิตอน 5 ทุ่มครึ่งและเราจะถึงเกียวโตประมาณ 6 โมงเช้า (เหตุที่ต้องไปขึ้นรถที่คาวาซากิเพราะใกล้กับโยโกฮาม่ามากกว่าโตเกียว)

เราออกจากบ้านประมาณ 3 ทุ่มครึ่งและถึงสถานีคาวาซากิประมาณ 4 ทุ่ม มีเวลาประมาณชั่วโมงกว่าเลยไปนั่งกินแมคกัน  ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาแถว ๆ สถานีคาวาซากิ เราคิดเราคือ แม่งเหมือนกรุงเทพว่ะ ฮ่าๆๆ มันดูไม่มีระเบียบ มันดูไม่ญี่ปุ่นยังไงก็ไม่รู้ ขยะเต็มมมมมม
แต่ว่าแถว ๆ โดราเอม่อนมิวเซียมนี่โอเคเลยนะน่ารัก มุ้งมิ้ง อาจจะเป็นเพราะแถวนี้เป็นสถานีใหญ่ก็ไม่รู้นะ การควบคุมอาจจะยากนิดนึง
 
ประมาณ 5 ทุ่มเราเดินมาขึ้นในซอยข้าง ๆ สถานี เป็นชื่อตึกว่า La Citta Della ลานจอดรถบัสค่อนข้างหายากนิดนึงค่ะ เพราะจริง ๆ มันไม่ใช่สถานีเลย ไม่มีสัญลักษณ์อะไรให้สังเกตได้เลยว่านี่คือที่จอดรถบัส ถ้าเป็นที่โตเกียวเราจะเจอรถบัสกว่า 10 บริษัทจอดเรียงกันพร้อมคนถือป้ายบอกเบอร์รถ แต่ที่นี่เราเจอแค่คน 2-3 คนนั่งอยู่ริมถนน มีแอร์บัสยืนอยู่แค่คนเดียว (ที่แต่งตัวเหมือนพนักงานบริษัท ไม่มีสัญลักษณ์อะไรบอกว่าหล่อนเป็นแอร์บัส)
 
เราเดินไปถามคนที่เราคิดว่าเป็นแอร์บัสเธอก็ยืนยันว่าตรงนี้แหละ เดี๋ยวพอถึงเวลาเธอจะเรียกอีกครั้ง สักพักนึงก็มีบัสของ Willer ขับเข้ามาจอด (แต่ไม่ใช่รอบเรา) รถจอดประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ผู้โดยสารขึ้นรถเสร็จรถก็ออกเลยไม่มีร่ำรีร่ำไร ตรงเวลามาก นั่งรอไปสักพักรถรอบเราก็มาล่ะ
 
บัสคันนี้วิ่งมาจากโตเกียวค่ะ เหมือนมารับผู้โดยสารที่สถานีคาวาซากิเป็นสถานีสุดท้ายละ ขึ้นไปบนบัสทุกคนหลับหมดแล้วเป็นกิริยาที่ไม่งามถ้าจะถ่ายรูปนะคะ
 
 
รถวิ่งมาสักชั่วโมงนึงก็จะถึงที่พักรถค่ะ มีบัสจากหลายบริษัทมาจอดพักรถกัน เค้าจะจอดประมาณ 15 นาทีให้เราเข้าห้องน้ำ ซื้อน้ำ ซื้อกาแฟอะไรแบบนี้ (ที่นี้ห้องน้ำอลังการมาก สวยมากใหญ่มาก สะอาดมาก)
ประมาณตี 5 เราตื่นเพราะได้ยินเสียงฝนตกกระทบหลังคารถหนักมาก (ช่วงนี้ไต้ฝุ่นเข้าด้วย ฮือออ) แต่ไม่ได้เปิดม่านออกไปดูนะเพราะเดี๋ยวแสงลอดเข้ามา เพราะส่วนมากยังหลับอยู่ค่ะ
แต่มีเรื่องอยากเม้าท์ เบาะด้านหน้าเราประมาณ 4 คนมาเป็นครอบครัว (พูดไทยชัดแจ๋วเลย ฮ่าๆ) ตื่นมาเปิดม่าน ถ่ายรูป เซลฟี่เสียงดังมาก แล้วเรานั่งอยู่เบาะถัดมาพอดี แสงเข้าตาเราเต็ม ๆ เลย เราหันไปมองจิกตาไปครั้งนึงคือไม่มีมารยาทอ่ะ ถึงแม้คนอื่นจะตื่นแล้วแต่ก็ไม่ควรส่งเสียงดังนะ เข้าเมืองตาหลิ่วก็ไม่หัดหลิ่วตาตามเลย เราหันไปบอกอีอ้วน ไทจิน เฮ้อออ

ประมาณ 6 โมงบัสก็มาถึงสถานีเกียวโตฝนยังคงตกอย่างหนักและพยากรณ์อากาศบอกว่าฝนยังคงจะตกทั้งวัน ฮือออ มาผิดเวลาโดยแท้ -__- 




 
ที่นั่งบัสของเราเป็นแบบนี้ค่ะ ถ้าตื่นแล้วก็เก็บม่านบังตาขึ้น (เครดิตรูปจากกูเกิ้ล)
 

 
 
 

**ตัดภาพมาที่เกียวโต**

เราจับรถไฟจากเกียวโตเอกิ ไปลงที่สถานีแถว ๆ วัดคินคาคุจิ (จำสถานีไม่ได้แล้ว) เราจะไปนอนที่บ้านของทาคุยะ (แฟนอายาริ) สาเหตุมาจากว่าบ้านอายาริมีฟุตง (ที่นอนแบบญี่ปุ่น) แค่ 1 อันไม่พอสำหรับเราสองคนเลยเปลี่ยนให้เราไปนอนบ้านทาคุยะ แล้วทาคุยะไปนอนบ้านอายาริแทน
 
ไปถึงสถานีแล้วทาคุยะมายืนรอรับที่หน้าทางเข้าสถานี นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกของเจ้าอ้วนกับทาคุยะ โชคดีที่เจ้าอ้วนพูดภาษาญี่ปุ่นได้การสื่อสารกับทาคุยะเลยไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ทางที่ดีที่สุดคือเราสองคนต้องพูดภาษาอังกฤษกับทาคุยะให้มากที่สุดเพื่อช่วยฝึกภาษาอังกฤษให้ทาคุยะด้วย
 
มาถึงอพาร์ตเม้นท์ของทาคุยะเป็นห้องขนาด 20 ตรม. มีครัวมีห้องน้ำในตัว แต่ผู้ชายคนเดียวอ่ะเนอะ ห้องขนาดนี้ก็อยู่ได้ไม่มีปัญหา
 
อายาริมาเล่าให้เราฟังทีหลังว่าก่อนเราจะมาทาคุยะทำความสะอาดบ้านใหม่หมดซื้ออุปกรณ์ห้องน้ำใหม่ ซื้อผ้าห่มใหม่เรียกว่าใหม่แกะกล่องทุกอย่าง แม้กระทั่งตู้เย็นที่ไม่เคยมีกาแฟก็ซื้อกาแฟมาติดตู้เย็นไว้ให้เราสองคน โถถถถถ น่ารักที่สู้ดดดดน้องทาคุยะจังของพี่ :))
 
 



 
 
 
วันนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตกทั้งวัน (ซึ่งก็ตกทั้งวันจริง ๆ) และตกหนักมาก เราถึงขั้นต้องเปลี่ยนเป็นรองเท้ากันฝนที่บ้านอายาริไม่งั้นรองเท้าเราเละตุ้มเป่ะแน่ ๆ
หลังจากทาคุยะบอกเราเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้านแล้วประมาณ 10 โมงก็ออกไปทำงาน และเราจะเจอกันอีกทีที่ไหนซักแห่งตอนค่ำ ๆ
 
ส่วนเรากับเจ้าอ้วนนัดกับอายาริไว้ประมาณเที่ยงที่บ้านอายาริ แต่ปรากฏว่าหลงทางด้วยบวกกับฝนตกหนักทำให้การเดินหารถบัสช้าลงไปอีก ทำให้เลทไปเกือบบ่ายโมง แต่ก็มาถึงบ้านอายาริอย่างปลอดภัย
เรานั่งพักทักทายม่าม้ากันพอหอมปากหอมคอก็ออกไปเที่ยวกันต่อ เจ้าอ้วนอยากไปศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (ซึ่งเราเคยไปแล้ว) ครั้งนี้เลยพาเจ้าอ้วนไป 
 
ปรากฏว่าฝนตกหนักมาก และทัวร์จีนก็เยอะมากเช่นกันจ้าาา ฝนตกหนักแบบนี้พี่ควรนอนผึ่งพุงอยู่โรงแรมกันไหมคะ ออกมาตากฝนให้ลำบากทำไมมมม แล้วคิดดูนะเราเดินลอดเสาโทริอิแบบต้องต่อแถวค่อย ๆ เดินอ่ะ คนมันเยอะขนาดนั้นจริง ๆ
 
ฝนก็ตก ร่มก็ต้องกาง อากาศก็ร้อนอบอ้าว มันเละเทะเฉอะแฉะไปซะหมด เฮ้อออ ไม่ไหว ๆ ไปหาเบียร์กินดีกว่าเนอะ ^:^
 
 
 


 
 
 


 
 
ระหว่างทางอายาริโทรหาทาโร่เพื่อนยาก ทาโร่วางงานทุกอย่างรีบบึ่งจากโอซาก้ามาหาเราทันที ซึ้งใจเพื่อนมาก ประมาณชั่วโมงนึงเราก็เจอกับทาโร่ คำถามแรกจากเด็กหญิงอายาริผู้รู้ใจเพื่อน กินข้าวหรือกินเหล้าอะไรก่อนดี ฮ่าๆๆ แน่นอนทุกคนคอแห้งเราต้องการน้ำ
 
อายาริพาเราไปร้านเบียร์ของคิริน ซึ่งเป็นบาร์ของคิรินเลย เราไม่แน่ใจว่าชื่อร้านอะไร ฮ่าๆๆ (ร้านอยู่ตรง Teramachi ) มีเบียร์หลายแบบมาก เรานี่ลองทั้งเบียร์ดำ เบียร์ธรรมดา เราสั่งเบียร์ดำไปแก้วแรก ไม่ไหวอ่ะขมเกินไป สาววัยกระเตาะมันต้องกินเบียร์ออริจินัลนะ หลังจากหมดเบียร์ดำแก้วแรก แก้วที่สอง สาม สี่ ก็ตามมา เดินเซกันเลยทีเดียว
 
หมดกันไปสองแก้วเพื่อนเราก็ตามมาอีกมีโมโร่ กับ ฮารุนะ (แฟนโมโร่) อีกพักใหญ่ๆ ยูเรียซังก็มาสมทบ ยูเรียซังมาจากคานาซาว่า มาดูงานศิลปะ และบังเอิญโชคดีเป็นช่วงที่เรามาเกียวโตพอดีเลยได้เจอกัน
(ยูเรียซังคือคนที่ใส่กิโมโนให้เราตอนไปคานาซาวะ)
 
 



 
 
 


 
 
หลังจากกึ่ม ๆ ได้ที่แล้วเพื่อนถามปูจังอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมเดี๋ยวพาไป อีนี่ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย พากูไป Izagaya โหน่ยยยยยยยย ( Izagaya คือบาร์แบบญี่ปุ่น) คือเราชอบร้านสไตล์อิซากายะมากกกกกกก (ก ไก่ล้านตัว) มันชิวอ่ะ ไม่แพงด้วย นั่งเม้ามอยนานๆ ก็ได้ไม่มีใครมาไล่ แถมอีกอย่างคือมีเหล้ากับเบียร์หลายแบบมาก
ในไทยเรายังไม่เคยลองอิซากายะ แต่มันคงคนละอารมณ์กับญี่ปุ่นอ่ะ แค่การบริการเราก็ว่าต่างกันแล้ว เราชอบไปร้านที่ลุง ๆ ป้า ๆ เป็นเจ้าของร้านเพราะลูกค้าส่วนมากก็จะแบบเป็นลุง ๆ ป้า ๆ เพื่อน ๆ มานั่งคุยกัน คุยกันสนุกดีถึงแม้ว่าจะคุยไม่รู้เรื่องก็ตาม อย่างที่เคย ๆ ไปมาหลาย ๆ คนรู้ว่าเราเป็นไกจินก็ชอบชวนคุยใหญ่เลย คนญี่ปุ่นนี่เค้ารู้คำทักทายภาษาไทยเยอะนะ สวัสดี ขอบคุณ อร่อย บลา บลา บลา
 
 
 


 
 
เพื่อนพาเรามาร้านแถว ๆ คาวารามาจิ ชื่อร้าน Ekohiiki เป็นร้านแบบมีสไตล์มากค่ะ  เป็นร้านแบบเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย พนักงานชายหน้าตาดี พอเค้าเสิร์ฟเครื่องดื่มให้เราครบทุกคนแล้วเค้าจะมานำเราชนแก้วค่ะ มีเหมือนเป็นบทพูดของเค้า ประมาณเรียกพลังให้เราพร้อมใจกันคัมปาย (เราถ่ายคลิปมานะแต่ลงในนี้ไม่ได้เอาไว้ลงในเฟสละกัน ฮ่าๆๆ)
 
นั่งกันจนเกือบเที่ยงคืนก็กลับเพราะเพื่อนบางคนต้องกลับรถไฟอาจไม่ทันได้ เรานัดกับยูเรียซังว่าพรุ่งนี้จะไปอาราชิยาม่ากัน มาดูว่าจะหลงทางและฝนจะตกอีกไหม
 
 
 




สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ