6/26/16

Japan Summer 2016 : Shirohige's cream puff factory




มาโตเกียวครั้งนี้วางแผนไว้เยอะมากกกก(ทั้งๆ ที่มีเวลาแค่สองวันยังไม่เจียม) จะไปไอ้นั่น จะกินไอ้นี่ จะดูไอ้โน้น ผลสรุป ตื่นสายด้วย ขี้เกียจหาด้วยได้ไปจริงๆ ตามแพลนก็แค่ไม่กี่ที่ แต่ที่แน่ๆ ที่ขีดเส้นใต้สองเส้น ย้ำๆๆด้วยปากกาไฮไลท์สองสีทำตัวหนาว่ายังไงต้องไปแน่ๆ คือ Shirohige's cream puff factory 

ที่นี่คือร้านอาหารอิตาเลี่ยนธรรมดานี่แหละ แต่ความไม่ธรรมดามันอยู่ตรงที่นอกจากจะมีอาหารอิตาเลี่ยนแสนอร่อยแล้ว จุดขายของร้านยังมีครีมพัฟรูปโตโตโร่ไว้ให้เราเซลฟี่ เอ้ยย!! ไว้ให้กินด้วยละ ฮ่าๆๆ



::วิธีการเดินทาง::

นั่งสาย Odakyu Odawara [For Hon Atsuki] คือสายนี้มันผ่านสถานีใหญ่ๆ หลายสถานีเลย ขึ้นจากชินจุกุก็จะง่ายค่ะ นั่งยาวมาลงที่สถานี Setagaya-Daita ได้เลย [สามารถเช็คสายรถไฟได้ที่ Hyperdia.com นะก๊ะ] ส่วนเรามีตั๋วของเมโทรซึ่งนั่งเมโทรได้ฟรี แต่ว่า Odakyu ต้องเสียตังนะ เลยต้องหาวิธีเสียเงินค่ารถไฟให้น้อยที่สุด เราเลยนั่งเมโทรมาลงสถานี Yoyogi Uehara แล้วเปลี่ยนมานั่ง Odakyu Odawara ต่ออีก 2 สถานีก็มาถึงสถานี Setagaya-Daita เสียเงินไป 130 เยน ( ̄▽ ̄) ขากลับก็นั่งแบบเดิมค่ะ เสียอีก 130 เยน จะบอกว่าอยู่โตเกียว 2 วันซื้อบัตรเมโทรสำหรับ 48 ชั่วโมง 1200 เยนเราใช้คุ้มมากกกกกก น่าจะเกิน 5000 เยนนะ ฮ่าๆๆ ใครมาเที่ยวโตเกียวแนะนำให้ซื้อนะคะ เพราะเมโทรค่อนข้างมีรถไฟครอบคลุมพื้นที่เที่ยวหลักๆ ในโตเกียวเลยค่ะ





ถึง Setagaya-Daita แล้ว เราเดินออกมาทางออก [ซึ่งเหมือนกับว่ามีอยู่ทางเดียวนะ] สถานีเป็นสถานีที่ค่อนข้างโลคัลค่ะ ไม่คิดว่าจะมีสถานที่ยอดฮิตซ่อนตัวอยู่แถวนี้ ตอนที่เรามาสถานีกำลังปรับปรุงบางส่วนอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้ทันสมัยขึ้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นด้วยแหละ แค่คนมาที่ร้านโตโตโร่นี่วันนึงก็เป็นร้อยแล้วนะเราว่า


ก่อนมาก็หัดเดินในสตรีทวิวมาแล้วบ้างละ แต่ว่าด้วยความเป็นเขตชุมชนทำให้ถนนที่เป็นซอยเล็กๆ ค่อนข้างเยอะ และในสตรีทวิวคือบางเส้นเราก็เดินเข้าไปไม่ได้ ทำให้วันนี้ยังงงๆ อยู่ว่าออกจากสถานีแล้วเราจะไปยังไงต่อดี แต่ถึงจะงงยังไงก็ขอไปตายเอาดาบหน้าละกันเนอะ ไหนๆ ก็มาแล้วนี่ ฮ่าๆๆ




เดินมาถึงทางออกของสถานี เลยจะถามนายสถานีว่าร้านนี้ไปยังไง ยังไม่ทันจะอ้าปากบอกเลยค่ะ คุณลุงนายสถานีพูดออกมาว่า "โตโตโร่ เดสุก๊ะ?" ฮ่าๆๆ (แสดงว่ามีคนมาถามทุกวันแน่ๆ เลย) แล้วลุงก็หันไปหยิบแผนที่เล็กๆ ขนาดเอสี่มาให้เราดูว่าต้องเดินไปทางไหน และคุณลุงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้นะคะ แต่โชคดีด้วยความที่เรียนภาษาญี่ปุ่นมาบ้างบวกกับภาษามือก็เข้าใจได้ในระดับนึง แล้วเราก็เดินตามทางที่คุณลุงบอกมาเรื่อยๆ ค่ะ


เอาแผนที่แปะไว้ให้ด้านล่างนะก๊ะ

เราออกมาจากสถานีแล้วเลี้ยวขวา เดินตรงมาจะเจอร้านลอว์สัน เดินตรงมาอีกแป่บนึงจะเจอตึกสีขาวให้เดินผ่านตึกสีขาวมานะคะ เราจะเจอซอยแรกเป็นซอยเล็กๆ ให้เราเลี้ยวขวาตรงเข้าไปเลย ไม่ต้องตกใจว่ามันจะมีร้านจริงๆ เหรอ?? เพราะมันคือย่านที่พักอาศัย แต่เดินไปสักพักเราจะเจอป้ายบอกทางว่าประตูสีเขียวว่าโตโร่คาเฟ่ เดินเข้าไปเลยค่ะ 

จากสถานีใช้เวลาเดินไม่ถึง 10 นาทีค่ะ เพราะตรงอย่างเดียวเลย




ระหว่างทางเดินเข้ามาเงียบมากค่ะ เพราะมันเป็นวันธรรมดาช่วงบ่ายคนก็ไปทำงานไปเรียนกันหมด เราก็แอบกังวลว่าจะมาถูกทางไหมนะ เพราะมันไม่มีสัญลักษณ์อะไรบอกเลยจริงๆ ว่ามีร้านน่ารักๆ อยู่ในซอยนี้ 

ปรากฏว่ามีชายหญิงคู่นึงเดินสวนทางมา ในมือถือถุงที่มีสัญลักษณ์โตโตโร่อยู่ :)) นี่รีบเดินเข้าไปชาร์จ ฮ่าๆๆ ถามเค้าว่าร้านอยู่ตรงไหน เค้าบอกเดินตรงไปเรื่อยๆ เดินตรงอย่างเดียวอีกแป่บนึงก็เจอ อ่ะ !! เดินไปปปปปปป






และแล้ววววววว เราก็มาถึง !!! เราจะเจอป้านของร้านอาหารอิตาเลี่ยนก่อนค่ะ ชื่อ TOLO แล้วเราจะเห็นซอกเล็กๆ ซึ่งมันเป็นซอกเล็กๆ จริงๆ ค่ะ ซอกที่ปกคลุมไปด้วยร่มไม้ ให้อารมณ์เหมือนเรากำลังเดินเข้าไปในป่าของโตโตโร่ ใครจะรู้ละว่าหลังพุ่มไม้มีโตโตโร่ซ่อนอยู่ 

เราจะบอกว่าบรรยากาศในนี้ต่างจากข้างนอกลิบลับเลย พอผ่านร่มไม้เข้ามาแล้วมันให้ความรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกนึงไปเลย (ไม่ได้เว่อร์นะ ฮ่าๆๆ) เราว่าถ้าใครเป็นแฟน Ghibli ก็คิดว่าคงรู้สึกแบบเดียวกันแหละ ที่ไหนที่เป็นโลเคชั่นของจิบลิมันก็จะทำให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งเลย ขนาดเราไป Ghibli museum มาสองครั้งแล้วเรายังตื่นเต้นทุกครั้ง ให้ไปอีกหลายๆ ครั้งเราก็จะไป ♡♡♡









คาเฟ่ที่นี่จะมีสองส่วนนะคะ ชั้น 1 จะขายครีมพัฟโตโตโร่สำหรับกลับบ้านอย่างเดียว นอกจากจะมีครีมพัฟแล้ว ก็จะมีเป็นพวกคุ้กกี้ขายด้วย เป็นคุ้กกี้ที่มีคาแรคเตอร์ต่างๆ มาจากเรื่องโตโตโร่ เช่น ต้นไม้, เห็ด ฯลฯ สำหรับรสชาติคุ้กกี้เราไม่ได้ชิมนะคะ มาเพื่อกินครีมพัฟอย่างเดียว 
นอกจากขายของสำหรับเทคโฮมแล้ว การจัดร้านก็เหมาะกับติ่งมากๆ ทุกมุมสามารถถ่ายรูปได้หมดเลย

ส่วนชั้นสองก็จะเป็นส่วนของอิตาเลี่ยนคาเฟ่ละ ก็จะมีกาแฟ, สปาเก็ตตี้, พาสต้า, ขนมนมเนยที่เราสามารถสั่งทานที่ร้านได้ และถ้าใครอยากกินครีมพัฟโตโตโร่ก็สามารถสั่งทานได้เลยค่ะ เค้าจะมีเมนูให้ 
ใครอยากมาติ่งที่นี่ แต่เพื่อนไม่รู้จักโตโตโร่ก็เจอกันครึ่งทางค่ะ เพื่อนกินอาหารอิตาเลี่ยนรอไปส่วนเราก็กินโตโตโร่ แฮ่ๆๆ








วันที่เรามาเป็นวันธรรมดาช่วงบ่าย แต่!!! อย่าประมาทไปนะคะ เพราะแฟนคลับจิบลิไม่ได้มีเฉพาะคนญี่ปุ่นเนอะ วันที่เราไปมีนักท่องเที่ยวหลายโต๊ะเลย มาตามรอยแบบเราเนี่ยแหละ แล้วมีโต๊ะแค่ประมาณ 5 โต๊ะ เท่านั้นเอง แนะนำว่าเป็นไปได้ให้มาวันธรรมดาจะดีกว่า เพราะขนาดมาวันธรรมดายังต้องรอคิว เกือบ 10 นาที จริงๆ ข้างนอกก็นั่งได้นะคะ แต่อากาศเย็นมากกกก วันที่ไปก็ประมาณ 20 องศา ซึ่งศรีจะไม่ทน !!!




ครีมพัฟของที่นี่จะมี 3 ไส้นะคะ มีชาเขียว, ช้อคโกแลต, และครีม เราสั่งเป็นชาเขียวไป ถามว่าอร่อยไหม เราว่าตัวไส้อร่อยนะคะ แต่ตัวที่เป็นพัฟมันแข็งไปหน่อย กัดทีร่วงกรู 
อาจจะต้องอุ่นร้อนนิดนึงหรือยังไง ฮ่าๆๆ แต่มาเอาบรรยากาศเนอะไม่ได้มากินให้อร่อยแค่ได้มาเห็นก็โอเคละ 

เราสั่งครีมพัฟหนึ่งชิ้น ประมาณ 440 เยน กับอิตาเลี่ยนโซดา 400 เยน สรุปมื้อนี้คือหมดไปประมาณ 800 กว่าเยน ถ่ายรูปก็คุ้มละ ถ้าครั้งหน้ามาอีกจะลองกินพาสต้าดูบ้าง 

















บล็อกหน้าเขียนอะไรดี ?!?!?