11/16/15

Japan Summer 2015 : Tempura Party - กินข้าวบ้านอายาริ




เรามาถึงบ้านอายาริกันประมาณ 6 โมงเย็น เรามีนัดกันสำหรับเวลคัมปาร์ตี้คืนนี้ 

ก่อนเราจะมาญี่ปุ่นอายาริไลน์มาถามว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม ม่าม้าจะได้ทำให้กิน ซึ่งมีช้อยส์มาให้เลือกหลายอย่างมาก เทมปุระ, ซูชิ, ซาชิมิ, ชาบู, สุกี้ ตอนแรกก็คิดนะ กินไรดีว่ะ มันเลือกยากนะแกกกกก คือต้องเลือกอะไรที่กินกับเหล้าแล้วมันเข้ากันไง แกจะกินผักทอดกะเบียร์เหรอออออ ถามหน่อย

แต่เอาจริงๆ นะญี่ปุ่นมันกินทุกอย่างกับเหล้าได้จริง ถ้าไปพวกร้านอิซากะยะ (บาร์แบบญี่ปุ่น) จะพบว่า กะหล่ำปลีสดจิ้มโชยุ แม่งก็กินกะเหล้าได้ (3 ใบ 300 เยน น้ำตาจะไหล) มะเขือเทศ หั่นสดๆ แม่งก็กินกะเหล้าได้ ซึ่งอายาริชอบกินมาก (เรานี่กินผักสดกับเหล้ามาทุกอย่างแล้วญี่ปุ่นแม่งพากิน 55555) 

เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกเทมปุระแกล้มเหล้ามันจะแปลกอะไร ใช่ม่ะ?? แปลกกว่านี้แม่งก็พาตรูกินมาหมดละ 


แล้วเราก็เลือกผักทอดหรือเทมปุระนั่นละจ้าาาาาาาา 














มาถึงก็ล้างไม้ล้างมือช่วยม่าม้าทำอาหารเลย ช่วยอะไรเหรอ ช่วยขูดหัวไชเท้าไว้ใส่น้ำน้ำจิ้มเทมปุระ งานใหญ่มากต้องใช้ฝีมือและกล้ามแขนที่สตรองงงง นี่วิ่งมาวันละ 10 กิโลเพื่อมาขูดอีหัวไชเท้าวันนี้นี่แหละ ได้หัวไชเท้าขูดเยอะเพียงพอแล้ว พร้อมกับกล้ามแขนที่เพิ่มขึ้น เราก็ไปนั่งดู เอ้ย !! ไปช่วยม่าม้าทอดเทมปุระต่อ 

สำหรับเมนูผักทอดวันนี้ มีกระเจี๊ยบ มันหวาน มะเขือม่วง แครอท หัวหอมใหญ่ 
เมนูเพิ่มความอิ่มท้องมีซูชิ ปกติเราเห็นซูชิแบบญี่ปุ่นมันจะมีแค่ห่อสาหร่ายใช่ไหมคะ แต่อันนี้จะเป็นซูชิแบบข้าวมาเป็นจานเลยผสมเครื่องปรุงต่างๆ ซึ่งรสชาติก็เหมือนซูชิข้าวปั้นที่เรากินนั่นแหละเพียงแต่มันไม่ได้ห่อมาในสาหร่ายอย่างที่เราๆ คุ้นตากัน

มันมีซูชิที่ห่อในใบไม้ด้วยนะทาโร่เคยเอามาให้กินมันใบอะไรไม่รู้ค่ะ คล้ายๆ ใบตอง เปิดออกมาก็มีข้าวกับปลาโปะมา รสข้าวก็ซูชินั่นแหละ










นอกจากนี้ยังมีปีกไก่ทอดสูตรคุณแม่ คือไก่ทอดธรรมดานี่แหละ แต่ทอดเสร็จม่าม้าให้เราเอาไก่ลงไปคลุกในซอสทันที (ซึ่งนี่ก็ไม่รู้ว่าเค้าใช้ซอสอะไร 5555) เสร็จแล้วเอาขึ้นมาไปคลุกงาต่อเลยค่าาาาา ร้อนมือพองไปตามๆ กัน 
และกับแกล้มสำหรับขี้เหล้าก็มีเอดะมาเมะ (ถั่วแระญี่ปุ่น) ชามโต ม่าม้าคิทเช่นเติมฟรีไม่มีอั้น 













หลังจากอาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งกินกัน อยากตะโกนว่า

เทมปุระอร่อยมากกกกกกกกกก!!!!!!!


คือผักญี่ปุ่นอ่ะมันอร่อย มันหวานด้วยตัวของมันอยู่แล้ว มาเจอบิ๊กเชฟอย่างม่าม้าอีก หือออ อร่อยคูณร้อยอ่ะ นี่ฟาดทุกอย่างเรียบภายในพริบตาเดียว









หลังจากทำอาหารเสร็จแล้วขี้เหล้าก็เฝ้าล้อมวง เราเอาเบียร์ไทยมาด้วย ส่วนยูเลียซังก็ซื้อเบียร์จากคอนบินิมาเพิ่ม ม่าม้าก็เอาเหล้าบ๊วยที่หมักเองกับมามาแจม (บ้านอายาริจะปลูกต้นบ๊วยไว้พอออกลูกม่าม้าจะเก็บมาทำเหล้าบ๊วย) โหลที่ม่าม๊าหยิบออกมาให้เรากินคือหมักมา 5 ปีแล้วค่ะ อร่อยมากกกกก ดูดลูกบ๊วยเมาตาเยิ้มไปตามๆ กัน 


ตอนนี้ยังมีเหลือประมาณ 5 โหลมั้งนะ ม่าม้าบอกโหลถัดไปก็สำหรับปูจังมากินรอบหน้าพอดี (วันรุ่งขึ้นม่าม้าก็กรอกเหล้าบ๊วยใส่ขวดน้ำให้เราเอากลับมากินที่ไทยด้วย อิอิอิ)

รอบที่ผ่านๆ มามาคนเดียว รอบนี้พานังอ้วนมาด้วย ทุกคนเอาใจนางงงงงงง นางน่ารัก น่าตลก ฉันกลายเป็นหมาหัวเน่า !!!!!!! ทุกคนบอกปูจังเธอต้องทำตัวดีๆ กับมิสเตอร์เอนะ อย่าดื้อล่ะ ห๊ะ ?!?!? สร้างภาพเก่งนะอีอ้วนนนนน 

 



เรานั่งดื่มกันถึงประมาณตี 1 ยูเลียซังนอนบ้านอายาริ ส่วนเรากับนังอ้วนกลับ อายาริมาส่งขึ้นแท็กซี่ พรุ่งนี้นัดกันไปเที่ยวโอซาก้า เจอกัน 9 โมงเช้านะก๊ะ 

โอ้ยเมาเหล้าบ๊วย 








11/15/15

Japan Summer 2015 : Arashiyama 2nd times - เดินดูสวนสวยที่ Ohkohchi Sansou



เกียวโตฝนไม่ตกแล้วววววว

วันนี้เรามีนัดกับยูเลียซังจะไปอาราชิยามะกันนัดกันไว้ประมาณ 11 โมง แต่ปรากฏว่ารถไฟดันหยุดวิ่งซะงั้น(เพราะบางพื้นที่ยังมีฝนตกหนักอยู่) แถมยังไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไหร่จะกลับมาวิ่ง เอาไงดีบัสก็ไม่เคยนั่ง แถวนี้ก็มากันครั้งแรก เอาว่ะ!! เห็นบัสคันไหนเขียนว่าไปอาราชิยามะก็โดดขึ้นคันนั้นก็แล้วกัน (น่าจะ) ไม่ยาก หึหึหึ  อ่านจากป้ายรถเมล์เขียนว่าสายไหนไปอาราชิยามะบ้าง ก็รอ (แต่ที่นัดยูเลียซังไว้ก็เลทแล้วละ) สักพักรถบัสก็มาเรามองเห็นหน้ารถเขียนว่าอาราชิยามะก็ขึ้นเลย แล้วให้อ้วนเปิดกูเกิ้ลแมพไปด้วย ถ้าเห็นท่าไม่ดีขึ้นผิดฝั่งจะได้โดดลงง่ายๆ แฮะๆๆ
นัดยูเรียซังไว้เที่ยง แต่มาถึงบ่ายโมงรีบโทรหายูเรียซังก่อนเลยอันดับแรก ยลซ มาถึงสักพักนึงแล้วรอเราอยู่ที่สถานีรถไฟ จะมัวรออะไรก็ไปหายลซ กันสิคร้าบบบ!!!


















จากไต้ฝุ่นเมื่อวานนี้ทำให้น้ำตรงสะพานโทเก็ตทสึเคียวขึ้นสูงมาก แล้วน้ำก็เป็นสีข้นเลยไหลแรงด้วยน่ากลัวมาก กลัวสะพานจะพัง เราเคยมาอาราชิยามะครั้งนึงตอนช่วงฤดูหนาว น้ำน้อยเลยละ ใสแจ๋ว เดินเอามือไปกวักๆ เล่นเย็นเจี๊ยบ มาวันนี้ต่างกันลิบลับ   ครั้งก่อนที่เรามานักท่องเที่ยวยังไม่เยอะขนาดนี้ส่วนมากเจอแต่คนญี่ปุ่นแบบบางตา มารอบนี้ทัวร์มหาศาลล้านแปดมากไม่ใช่เฉพาะทัวร์จีนอย่างเดียวนะ ได้ยินทั้งคนไทย คนเวียดเลยเสียงดังโฉ้งเฉ้งมาก นี่ถ้าหลับตาเดินจะนึกว่าอยู่วัดพระแก้ว 














หลังจากเจอยลซ แล้วเราเดินเล่ะตามริมน้ำไปเรื่อยๆ ฝนที่ตกเมื่อคืนทำให้ทุกอย่างเขียวชอุ่มมาก แต่ด้วยความที่มันเป็นซัมเมอร์และมันทำให้อึดอัดและอบอ้าวมากค่ะ


ร้อนญี่ปุ่นคือร้อนนรกมากกกกกก ร้อนหายใจกันไม่ออก อย่ามาเทียบกับบ้านเรานะคะ มันร้อนกันคนละแบบ แต่พลังทำลายล้างอาจทำให้ตายได้เช่นกัน


พอเดินเลาะริมน้ำไปแล้วจะเป็นทางขึ้นเขา (เรียกว่ามาที่เดียวได้ทั้งขึ้นเขาลงห้วยเลย) มองเห็นวิวสุดลูกหูลูกตาสวยมาก เขียวชอุ่มอิจฉาความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้

ยลซบอกว่าอยากไปดูที่ที่นึง ชื่อว่า Ohkohchi Sansou  เป็นความฝันที่อยากมาดูเลย เราก็เลยไปด้วย ก็เดินตามไปเรื่อยๆ ถึงทางเจ้าต้องซื้อตั๋วคนละพันเยนจ้าาาาา ตายแพร่บบ แพงเกิน (คือปกติจ่ายค่าเข้าไม่เกิน 500 yen ไง)    ตอนแรกกะว่าจะรอด้านนอกแต่ยลซ แอบเดินไปซื้อตั๋วให้พวกเราเรียบร้อยแล้ว ยลซ บอกว่าเค้าเป็นคนอยากมาดูและขอร้องให้พวกเรามาเค้าขอจ่ายให้เอง ปฏิเสธไม่ได้ค่ะ เพราะไปซื้อมาแล้วแต่ก็ขอบคุณยลซ มากเลยนะคะ
เราซื้อตั๋ว 1 ใบจะได้จิบชายามบ่ายกับคุณชายรณพีร์ ไม่ใช่ !!!! เราจะได้ไปนั่งดื่มชากับขนมแบบเจแปนีสสไตล์ คนละ 1 ที่ค่ะ เค้าจะจัด Teahouse  ไว้ด้านในค่ะ เราไปนั่งดื่มด่ำกันได้


Ohkohchi Sansou จะอยู่ใกล้ ๆ กับ Bamboo Forest ค่ะ (ซึ่งถ้าใครไม่ได้ตั้งใจมาจริง ๆ เราว่าไม่น่าจะหาเจอ) เป็นบ้านและสวนแบบเจแปนีสสไตล์ สวนนี้สร้างโดย Okochi Denjiro นักแสดงชาวญี่ปุ่น สร้างไว้สำหรับพักผ่อนค่ะ (ยลซ เค้าบอกมาแบบนั้น) วิธีการเดินชมสวนนี้เราต้องเดินตามลูกศรไปเรื่อย ๆ ซึ่งแต่ละเส้นทางก็จะผ่านจุดแลนด์มาร์คสำคัญ ๆ เช่นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวเกียวโตได้ เรารู้สึกว่าคนสร้างที่นี่ฉลาดมากค่ะ ใช้พื้นที่ได้อย่างเกิดประโยชน์ และวางแผนเป็นอย่างดีว่าควรจัดวางอะไรไว้ตรงไหน คือวันนึงพอมันกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมันก็เกิดระบบการเข้าชมที่ดีและเป็นระเบียบได้จริง ๆ 
แต่เราว่าระบบการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นส่วนมากเป็นระเบียบอยู่แล้วนะ ต้องชื่นชมเค้าล่่ะประเทศนี้

เราตั้งข้อสังเกตอย่างนึงว่า ที่นี่ ไม่ค่อยมีคนเอเชียเข้ามาชมค่ะ ทั้ง ๆ ที่ด้านนอกมีทัวร์ชาวเอเชียเยอะมากกกกกก เท่าที่เห็นส่วนมากเลยเป็นผมบรอนด์ อันนี้ขอตั้งขอสังเกตจากตัวเองเลยนะว่าทำไมคนเอเชียถึงน้อย 
- อย่างแรกค่าเข้าแพงค่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องภูมิศาสตร์ เซน หรือดื่มด่ำกับสวนสไตล์ญี่ปุ่นค่าเข้า 1000 เยนถือว่าแพงนะ (เคยไปวัดเรียวอันจิ ไปนั่งมองหินเสียเงินค่าเข้าไม่กี่ร้อยเยนยังงงเลยว่านี่กูจ่ายเงินมานั่งมองหินทำไมว่ะ) ยิ่งถ้ามากับกรุ๊ปทัวร์ด้วยแล้ว สถานที่นี้คงไม่มีระบุไว้ในโปรแกรมทัวร์แน่นอนค่ะ ขนาดเราเป็นติ่งญี่ปุ่นแท้ ๆ ยังไม่รู้เลยว่าที่อาราชิยามะ มีที่แบบนี้ด้วย ถ้าเที่ยวตามรีวิวอาราชิยามะก็แค่ Bamboo Forest, Togetsukyo, หรือรถไฟสายโรแมนติกแค่นั้นเอง


-  อย่างสองคือเราว่าคนตะวันตกค่อนข้างจะมีความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม ของเอเชีย (ซึ่งคนเอเชียก็อาจจะชินกับศิลปะชาติตัวเองละนะ) คือเค้าดู หรือศึกษาเค้าก็ทำแบบจริงจัง ยิ่งสถานที่นี้เราว่าคนที่มาคือคนที่หาข้อมูลมาก่อนแล้วและตั้งใจจะมาจริง ๆ ไม่ใช่มาเที่ยวสถานที่ยอดนิยมอะไรแบบนั้น เราสังเกตว่านักท่องเที่ยวหลายคนดูเนื้อไม้ที่สร้างบ้าน ยืนอ่านประวัติต้นไม้ใบหญ้าแต่ละต้นจริงจังมาก 

สุดท้ายเลยใครไปอาราชิยาม่า อยากลองไปสถานที่ใหม่ ๆ แนะนำที่นี่เลยค่ะ Ohkohchi Sansou เรารับลองได้เลยว่าทุกก้าวในสถานที่นี้จะทำให้เราร้อง หู้วววว ได้ทุกย่างก้าวเลยและสวนที่นี่ก็จะเปลี่ยนสีไปในแต่ละฤดูกาลด้วย อย่างใบไม้แดง หรือ ซากุระ เรามาซัมเมอร์ยังสวยเลยค่ะ แนะนำเลยสำหรับค่าเข้าพันเยนถือว่าถูกมาก เราใช้เวลาอยู่ในนี้กันประมาณสองชั่วโมงเรียกว่าดื่มด่ำมาก ต้องขอบคุณยลซด้วยที่พามาเปิดหูเปิดตา 






หลังจากที่ออกจาก Ohkohchi Sansou แล้วเราก็มาที่ Bamboo Forest อย่างที่คาดการณ์ไว้ค่ะ คนมหาศาลล้านแปดเดินอยู่ในดงไผ่ ถ่ายรูปอะไรมาก็ติดแต่คน เลยเปลี่ยนแผนไปที่อื่นกันดีกว่า ยลซ กับเจ้าอ้วนไม่เคยไปวัดทองค่ะ เราไปมาแล้วรอบนึง อ่ะไปอีกก็ได้ ญี่ปุ่นกี่รอบมันก็สนุกอ่ะเนอะ 







เรานั่งรถไฟจากอาราชิยามะมาลงสถานีแถว ๆ คินคาคุจิ แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาทีค่ะ และทุกอย่างก็เป็นไปดังคาดหมายคือทัวร์แน่นนนนนนนนน    มากกกกกก อีโล้งโฉ้งเฉ้งกันไปหมด รถทัวร์ก็เยอะ คนก็แยะ ท่องไว้เลยโลว์ซี่ซั่นราคาถูก แม่มมมมม ถ่ายรูปก็ติดแต่คนเต็มไปหมด วินาทีนั้นทำใจอย่างเดียว เอาเหอะมาวัดทองคราใดก็เจอแต่ทัวร์แหละ สถานที่ยอดนิยม 

เราเดินตามเข็มนาฬิกาไปเรื่อยตามสไตล์ญี่ปุ่น (ที่ให้เดินได้ทางเดียว) ไปเสี่ยงเซียมซีแบบเจแปนีสสไตล์มาด้วย สำหรับปี 2015 นี้ถือว่าเป็นปีที่ดีสำหรับเรา อันไหนดีก็เก็บไว้อันไหนไม่ดีไปแขวนไว้ที่ต้นไม้นะก๊ะ  เดินแป่บเดียวร้อนมากกกกกกก ร้อนแบบอึดอัดหายใจไม่ออก (บอกแล้วว่าฤดูร้อนญี่ปุ่นมีพลังทำลายล้างสูงมาก) ยิ่งคนเยอะด้วยไม่ไหวแล้วกลับดีกว่า 







 ยลซ พาเรานั่งรถบัสจากหน้าวัดทองไปลงที่คาวารามาจิ แถวบ้านอายาริเลย คืนนี้เราจะมีปาร์ตี้กัน ม่าม้าจะมีเวลคัมปาร์ตี้สำหรับเรา อิอิอิ คือเรามาเกียวโตทีไรม่าม้าก็จัดเต็มให้ตลอดดดดด 







บล็อกหน้ามากินข้าวกันนนนนน