3/13/14

ทริปเยี่ยมญาติ Japan 2014 : Kobe ส่องโกเบกับเดอะแก้งค์









ตอนแรกที่คิดไว้คือเราจะต้องไปโกเบคนเดียว เพราะเพื่อน ๆ คงทำงานกันหมดไม่มีเวลาพาเที่ยว เลยต้องทำการหาข้อมูลโกเบอย่างหนัก
โดยเฉพาะเรื่องการเดินทางยังไงไม่ให้หลง >"< เรื่องกินเป็นรองลงมา เราไม่เน้นตามรอยกินมากนักเพราะเป็นคนกินไม่เยอะอยู่แล้วอ่ะ
แค่กินมื้อหลักแต่ละมื้อก็อิ่มจะตายอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ แต่ผิดคาดจ๊ะ ปรากฏว่าพวกเพื่อน ๆ จะยกโขยงไปโกเบกับดิฉันกันหมดเลยยยยยย
เป็นเรื่องที่น่าปลาบปลื้มและยินดีมาก เพราะถ้าเดินทางคนเดียวนี่อัตราการเสียงต่อการเสียเวลาเพราะหลงทางสูงมากนะคะ



เราตื่นเช้ามากัน กินอาหารเป็นกาแฟกับคุ้กกี้ที่ม่าม้าเตรียมไว้ให้ อายาริถามว่าไปโกเบอยากกินอะไร เราตอบว่าเนื้อโกเบ ฮ่าๆๆๆ
แล้วก็ทำหน้าจ๋อยใส่เพื่อนพร้อมพูดว่าแต่อย่าเลยเนอะ มันแพงงงงง T___T คือถ้าเราอยากกินเพื่อนก็ต้องกินด้วยไง
เราไม่อยากให้เพื่อนเสียเงินเยอะแค่พาเราไปก็ไม่รู้จะขอบใจอย่างไงแล้วอ่ะ

แล่ว แล่ว แล่ว !!!!! ม่าม้าได้ยินจ้าาาาาาาาาา ม่าม้าบอกว่าเอางี้นะ เดี๋ยวม่าม้าพาไปกินยากินิคุในเกียวโตถ้าวันไหนปูกลับมาบ้านเร็ว
อ่าาาาาาห์ ก้มกราบม่าม้าด้วยท่าเบญจางคประดิษฐ์ แต้งกิ้วทรีไทมส์ ค๊าาาาาาาา !!!!!




อาหารมื้อเช้าก่อนบุกตะลุยไปโกเบ





โผล่ออกจากสถานีซานโนมิยะ ก็เจอป้ายนี้







ถึงโกเบก็เกือบ ๆ เที่ยงแล้วเราเริ่มจากการหาอะไรกิน และเราเจอคำถามเดิมคือ ปูอยากกินอะไร ??? คำถามนี้มักหาคำตอบยากเสมอ เลยตอบไปอย่างโง่ๆ และสิ้นคิดว่า ราเมงก็ได้ เพื่อนคงงง อะไรนะมึงถ่อมาถึงโกเบแต่จะกินราเมงเนี่ยนะ !! กลับไปกินที่ทองหล่อ เอกมัยม่ะ ?!!

และพวกเราก็ไปกินราเมง !!!!!! โดยการเปิดกูเกิ้ลว่าร้านไหนเด็ดสุด เพื่ออะไรเนี่ยยยยยย เอาเนื้อย่างโกเบกูคืนมาาาาา !!!!


ทาโร่เป็นคนนำทางเดินไปสัก 10 นาทีก็มาเจอร้านที่ถ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกก็จะไม่รู้เลยว่าคือร้านราเมง เปิดประตูเข้าไปเจอชายหนุ่มร่างกำยำเต็มร้านจ้าาาาาาา เป็นร้านแบบหันหน้าเข้าเคาน์เตอร์แบบรีบกินแล้วรีบไปนะอย่ามานั่งเม้าท์เอ้อละเหยลอยชาย

และ


เมนูเป็นภาษาญี่ปุ่นจ๊ะ เงิบบบบ อ่านออกแค่คำว่า ラーメン ราเมง กับ たまご ไข่ และ ビール เบียร์
ส่วนราเมงรสอะไรนั้นให้เพื่อนทรานสเลทให้จึงได้ชสชูเมงมากิน ตอนแรกเพื่อนถามว่าจะเอาเป็นเซทไหม? มีข้าวผัดด้วยนะค่ะ เกือบหล่ะ เกือบสั่งเป็นเซ็ทหล่ะ! โชคดีมากที่ไม่สั่งเป็นเซ็ท เพราะราเมงชามเดียวที่เราสั่งคือแบบใหญ่มากอ่ะ ใหญ่เกินไปนะมีหมูประมาณ 20 ชิ้นได้ เพื่อนบอกว่าชาชูเมนมีหมูเยอะก็ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ ☆〜(ゝ。∂)และแล้วก็กินไม่หมดจ๊ะส่งให้เพื่อนๆ ชายหนุ่มร่างกำยำกินต่อ......




เพื่อนสั่งแอลมากรึ้บกันตั้งแต่เที่ยง ความแตกต่างทางวัฒนธรรมอีกแล้ว




เมากันแบบแพ็คคู่




เส้นอยู่ไหน? ทำไมมีแต่หมู ?





รสชาติถือว่าอร่อยมากทีเดียวน้ำซุปนี่กลมกล่อมเส้นราเมงเหนียวนุ่มหมูก็นุ่มละลายในปาก อาหารอร่อยนี่ห้ามตัดสินจากร้านเล็กหรือใหญ่เลยนะ ขุมทรัพย์ชัดๆ



ถ่ายหน้าร้านคราวหน้ามากินอีก เมื่อไหร่ดีหล่ะ ?




ป้ายบอกทางในคิตาโนะ อ่านไม่ออก (((o(*゚▽゚*)o)))



กินอิ่มแล้วก็ออกเดินทางกันต่อเราใช้วิธีการเดินไปคิตาโนะ ถือว่าเดินย่อยละกันนะ เดินไกลเราไม่ว่าแต่ตลอดการเดินทางนี่เดินขึ้นเนินตลอดนะ สวยจ๊ะบ้านบนเนินแต่เหนื่อยมากกกกกกก!!!


คิตาโนะคือย่านชาวต่างชาติที่มาสร้างบ้านเรือนในญี่ปุ่น เพราะเมื่อสมัยที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศชาวต่างชาติก็ได้นำเรือมาจอดเทียบท่าที่อ่าวโกเบ ทำให้เกิดเป็นหมู่บ้านต่างชาติมานับตั้งแต่นั้น (ข้อมูลจำเค้ามาโปรดอย่าถามหาสาระค่ะ)

ตอนนี้หลายๆ บ้านก็ไม่มีคนอยู่แล้วเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร คาเฟ่อะไรก็ว่ากันไปมีทั้งฟรีและเก็บตัง ดูกันดีๆ นะจ๊ะเข้าครั้งนึงก็ประมาณ 500 เยน แพงอยู่นะ สำหรับเราแล้วเดินดูเมืองกับเข้าชมฟรีค่ะแค่ดูเมืองอย่างเดียวก็เกือบครึ่งวันแล้วเหอะ



สตาร์บัคเก๋ๆ ในย่านคิตาโนะ 




เค้าไม่ได้มีไว้ให้กินกาแฟนะเค้ามีไว้ให้ถ่ายรูป ฮ่าาาาาา




เดินกันไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก




เมืองร้อยเนิน ;^_^A




ทำตัวเกรียนๆ ในโกเบ 



จากคิตาโนะเราเดินอีก ย้ำค่ะว่าเดิน ! ไปที่อ่าวโกเบ เพื่อไปถ่ายวีดีโอให้ทาโร่ เราแวะพักกันเล็กน้อยที่สตาร์บัคส์ พอมีเงินเยนรู้สึกว่าสตาร์บัคส์ญี่ปุ่นถูกว่ะ ฮ่าาาา เลี้ยงเพื่อนเลยเป็นการขอบคุณ

จะบอกว่าวันนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตกทั้งวันและจงเชื่อเถอะค่ะเพราะมันแม่นมากกกกกก แต่ไม่ได้ตกหนักอะไรนะตกปรอยๆ อ่ะ เดินตากได้ไม่มีปัญหาพวกเรามีหมวกทุกคนและที่หนักกว่านั้นคือทุกคนขี้เกียจถือร่ม!! เหมาะที่เป็นเพื่อนข้าพเจ้าโดยแท้





มองจากเนินอีกลูกหนึ่งสู่เนินอีกลูกหนึ่ง







ทางเดินไปอ่าวโกเบ ตึกสีวินเทจ




เลี้ยงเพื่อนด้วยสตบ. 




ร่องรอยที่ยังเก็บไว้เตือนใจเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญในโกเบหลายสิบปีก่อน


ซื้อร่มเพราะต้องเอามาบังกล้อง 5555


เราถ่ายวีดีโอกันแถวๆ อ่าวนั่นแหละ มีอนุสาวรีย์ระลึกเหตุการแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในโกเบเมื่อปี 1995 เรายืนดูวีดีโอที่เค้าถ่ายไว้ภาพจริงๆ เลยนะ สะเทือนใจเกินไปแล้ว
ด้วยความที่วันนี้ฝนตกถึงแม้จะเป็นวันเสาร์คนก็ไม่เยอะนะสงสัยหลบฝนอยู่ในสถานีรถไฟ เพราะสถานีคนเยอะมาก 
เราถ่ายวีดีโอกันชิวๆ ท่ามกลางสายฝน เสร็จประมาณบ่ายสี่โมงทาโร่ขอตัวกลับก่อนเพราะมีงานต่อส่วนเรา อายาริและทาคุยะไปต่อเราจะไปดูหุ่นยนต์ชื่อว่า Tetsujin 28 การ์ตูนเรื่องนี้นานมากแล้วนะ เราเองก็ไม่เคยดูแต่ด้วยความที่รู้จักก็อยากเห็นของจริงสักครั้ง เราจับรถไฟไปลงที่สถานีชินนางาตะ เดินไปเรื่อยๆ ตามสัญลักษ์ก็จะเจอ Tetsujin 28 ตัวใหญ่มากกกกกก ตั้งอยู่บนพื้นที่โล่งๆ ใกล้ๆ ตึกที่เป็นห้างสรรพสินค้า เรานี่กรี๊ดดดดดดเลย เฮ้ยใหญ่มาก สุดยอดดดดด


จากสถานีชินนางาตะเดินไปหาหุ่นยนต์



เตรียมบิน



เลียนแบบรุ่นพี่



สำหรับโกเบวันนี้พบว่าเราเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกชอบ ในความรู้สึกเราคือเมืองนี้ออกแนวหยิ่งๆ นะ รู้สึกว่าหยิ่งกว่าโตเกียวด้วยซ้ำไป ในคันไซนี่เกียวโกกับโอซาก้าเราเลิฟที่สุดหล่ะ  
วันนี้เสร็จโปรแกรมโกเบกันเรียบร้อยแล้วเราจะไปดื่มกันที่โอซาก้าจ้า..... ไปกันย่านกินดื่มของลุงป้าโอซ้าก้ากัน



To be continue ......














No comments: