3/12/14

ทริปเยี่ยมญาติ Japan 2014 : First meal in Kyoto มื้อแรกในเกียวโต








ก่อนเราจะมาญี่ปุ่นอายาริไลน์มาหาเราถามว่าอยากกินอะไรมื้อแรกที่มาถึงเกียวโตม่าม้าจะทำไว้รอ มีช้อยส์คือ นาเบะ ทาโกะยากิ โอเด้ง โอโคโนะมิยากิ ซูชิ เราเลือกนาเบะเพราะหน้าหนาวมันต้องนาเบะนี่แหละส่วนซูชินี่ได้กินเพราะม่าม้าแถมให้เป็นกรณีพิเศษ อิอิ

มาถึงบ้านกอดกัน พอให้หายคิดถึงเก็บกระเป๋าเดินทาง ปกติเราจะนอนห้องอายาริครั้งนี้อายาริถามว่า ปูจะนอนห้องเราห้องเดิม หรือจะนอนห้องใหญ่
ที่เป็นห้องรับแขกถัดไปติดกับสุสาน ?? ถูกต้องแล้วค่ะสุสานอ่านไม่ผิดหรอก เพราะบ้านอายาริเป็นวัดไง ด้านหลังก็จะเป็นสุสาน
เราตอบแบบไม่คิดเลยว่านอนห้องเดียวกับเธอนั่นแหละ ห้องเล็กไปหน่อยแต่ก็ยอม แหมมม กล้าถามนะคำถามว่าจะนอนห้องไหน หึๆๆ








เรามาถึงอาหารพร้อมไว้รออยู่แล้วมีนาเบะ (คล้ายๆ สุกี้บ้านเรา ใส่น้ำซุปใส่ผักเต้าหู้เนื้อสัตว์ลงไป)
ซูชิโฮมเมด คือมีข้าวแยกไว้ ไส้ซูชิแยกไว้สาหร่ายแยกไว้ อยากกินอะไรก็เอามาม้วน ๆ ห่อ ๆ เอาเอง
อายาริสอนว่า อย่าใส่ข้าวเยอะนะเดี๋ยวอิ่มเร็ว ฮ่าาาาาา
สมาชิกร่วมโต๊ะอาหารมื้อแรกในค่ำคืนนี้มี 6 คนรวมเราด้วย ม่าม้า อายาริ โมเอมิ (น้องสาวอายาริ)
ทาคุยะ (แฟนอายาริ) และทาโร่






อาหารมื้อแรกเป็นไปอย่างอิ่ม อร่อยและราบรื่นเราได้รับรู้เรื่องราวของเพื่อน ๆ แต่ละคนผ่านอาหารมื้อนี้
เป็นมื้อแรกที่ไม่ต้องรีบ กินข้าว ดวลเหล้า เม้าท์มอย มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริง ๆ

น้องสาวเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วทำงานเต็มเวลาในมหาวิทยาลัยเดิมที่เรียนจบมา น้องสาวบอกว่า
งานค่อนข้างหนักตามสไตล์เจแปนนีสนั่นแหละตื่นตีห้ากลับบ้านสามทุ่มถือเป็นเรื่องปกติ แ
ต่น้องก็ดูมีความสุขดี

อายาริโตขึ้นเป็นสาวขึ้นมาคราวนี้เพื่อนมีแฟน และเพื่อนดูมีความสุข ทาคุยะแฟนของอายาริเราเคยเจอครั้งนึง
ที่ไทยและได้คุยกันผ่านสไกป์บ่อยๆ คุยกับเราถูกคอดีเป็นหนุ่มอารมณ์ดี จิตใจดี
และสัมผัสได้เลยว่ารักเพื่อนเราจริงๆ เราให้ผ่าน ✔️

ส่วนทาโร่ดูรีแล็กซ์มากขึ้น เมื่อก่อนทาโร่จะเป็นคนที่ซีเรียสตลอดเวลา ไม่มั่นใจในตัวเอง
คุยกับเพื่อนก็ไม่มองตาไม่สบตามาคราวนี้ทาโร่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
เราเห็นสายตาที่ผ่อนคลายของเพื่อน เพื่อนดูมีความสุขมากขึ้นเมื่อเห็นแบบนี้
เราเองก็รู้สึกมีความสุขไปด้วยเช่นกัน







ก๊งเหล้ากันไปค่อนคืนม่าม้าภูมิใจนำเสนออูเมชู หรือสาเกพลัม หรือเหล้าบ๊วยตามแต่ใครสะดวกจะเรียกอะไร
ม่าม้าทำเองเก็บไว้หลายโหลเลย แต่ละโหลก็จะใช้เหล้าต่างกันไปในการหมัก (เหมือนทำสาโทนะ)
ม่าม้าให้เราชิมทุกโหลชอบอันไหนก็ค่อยกินอันนั้น บางโหลนี่หมักมาหลายปีแล้วบนฝาเค้าจะมีติดไว้
ว่าหมักตั้งแต่เมื่อไหร่บางบ้านนี่หมักเกือบสิบปีก็มีนะเค้าว่ากันว่ายิ่งหมักนานยิ่งอร่อย
หลังจากปิดจ๊อบเบียร์ไทยแล้วพวกเราซดเหล้าบ๊วยหมดกันไปโหลนึง (≧∇≦)








ก่อนมาทาโร่แวะซื้อแยมโรลครีมสดติดไม้ติดมือมาฝากด้วย อิ่มข้าวอิ่มเหล้าก็มีเค้กชากาแฟมาเสิร์ฟต่อ
ไม่มีให้หยุดพักพุงไส้กันเลยทีเดียว อันนี้แอบทึ่งกับความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมเล็กน้อย
คือคนไทยจะไม่กินของหวานกับเหล้าเพราะจะทำให้เมาเร็ว แต่ญี่ปุ่นนี่แบบได้หมดอ่ะ กินเหล้าเสร็จ
ต่อด้วยเค้ก ตามด้วยกาแฟ ชา แล้วกลับมาซดเหล้าต่อ สามารถมาก ๆ อ่ะ แต่เราก็ทำตามนะ ฮือออ...

เที่ยงคืนม่าม๊ากับน้องสาวขอตัวไปนอนพวกเรายังนั่งเม้ากันอยู่ถึงตีสอง ทาคุยะปั่นจักรยานกลับบ้าน
ทาโร่นอนที่บ้านอายาริเพราะบ้านทาโร่อยู่โอซาก้ารถไฟหมดแล้ว พรุ่งนี้เราจะออกจากเกียวโต 9 โมง
เพื่อไปตะลุยโกเบกัน


จะตื่นไหมนะ ??






To be continue........













No comments: