3/25/14

ทริปเยี่ยมญาติ Japan 2014 : เจอเพื่อนที่ Expo's park ในวันที่ดอกบ๊วยบาน




เราตื่นมาตอน 7 โมงเช้าอาบน้ำแต่งตัวเสร็ตก็ประมาณ 8 โมงนิดๆ รีบมากินอาหารเช้าดีกว่า วันนี้ม่าม้าทำเบรคฟัสต์ตามคำเรียกร้องของเราคือข้าวราดไข่ดิบ ;^_^A สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่อยากกินอะไรที่มันหวาดเสียวเรื่องรสชาติให้น้อยลงกว่านี้ฟร่ะ ! นี่เสี่ยงต่อการวิ่งไปคายทิ้งมากอ่ะ

อายาริสอนวิธีทำคือตอกไข่ใส่ชาม หยดโชยุลงไปตามใจชอบอย่า (ใส่เยอะเดี๋ยวเค็ม ) ตีไข่ให้แตก คนๆ ให้เข้ากันแล้วราดลงบนข้าวจากนั้นก็โซ้ยเลยยยย และผลปรากฏออกมาว่า

แม่จ้าวววว !!! มันอร่อยมาก !!! คือรสชาติมันมันๆ ไม่มีกลิ่นความคาวเลย เหมาะกับการเป็นอาหารเช้าของซารารี่มังที่ดำเนินชีวิตด้วยความเร่งรีบมั่กๆๆ 
ม่าม้าเพิ่มโภชนาการทางอาหารให้ด้วยมิโสะซุป ผักและสาหร่าย ถ้วยเดียวมันไม่พอนะขอรับบบบ ....




วันนี้มีนัดกับเพื่อน





อาหารเช้าแบบเจแปนนีสสไตล์




อายาริต้องมาทำงานที่โอซาก้าส่วนเรามีนัดกับ "เพื่อน" ที่โอซาก้าเช่นกันแต่เราต้องเปลี่ยนสายรถไฟก่อนอายาริ เราออกจากบ้านตอน 9 โมงเช้าพร้อมกัน อายาริเขียนแผนที่และเวลารถไฟให้พร้อมกำชับว่ามาให้ทัน Hankyu เวลานี้นะ เดินมาที่โบกี้ที่ 2 ฉันจะรออยู่ตรงนั้น
ป.ล.คิดว่าเราจะรอดไหม ??!!?!

วันนี้มีนัดกับ "เพื่อน" เพื่อนไหน? ไทย ? ญี่ปุ่น ? แฟนหรือเปล่า ?? ตอบเลยว่าเพื่อนในที่นี้คือ (ใครเค้าอยากรู้! ) การ์ตูนเรื่อง 20th Century boys เป็นการ์ตูนที่เราชอบมากอีกเรื่องนึงเลยอ่านทั้งมังงะแล้วก็ดูหนังด้วย ( แนะนำว่าควรอ่านและดูมิฉะนั้นท่านอาจงงได้) 




ถ่ายที่ห้องน้ำสถานี Bampaku kouen





แอบถ่ายเพื่อนจากสถานี





การ์ตูนเรื่องนี้เกี่ยวกับแก้งค์เด็กผู้ชายแก้งค์นึงที่มาเล่นด้วยกันทุกวัน พร้อมกับวาดรูปตามจินตนาการเกี่ยวกับการทำลายล้าง โรคระบาด และอาชญากรรม โดยไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่พวกเค้าได้วาดไว้ตั้งแต่เด็กๆ ผ่านไปหลายสิบปีสิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นจริง โดยฝีมือของเด็กชายคนนึงในกลุ่มที่ใส่หน้ากากปกปิดตัวเองมาตลอด เมื่อวางแผนจะยึดครองโลกก็ตั้งตัวเองเป็นลัทธินึงและเรียกตัวเองว่า "เพื่อน" โดยที่ทุกคนในกลุ่มไม่มีใครรู้เลยว่าใครคือ "เพื่อน" และช่วยกันออกตามหาความจริง และกระชากหน้ากากของ "เพื่อน" ให้ได้





จ่ายเงินเพื่อให้เข้าใกล้เพื่อน





ที่ที่เรามาวันนี้คือ Expo's park จะคล้ายๆ กับเมืองทองธานีบ้านเราอ่ะนะ จะมีการแสดงงานสินค้าอะไรพวกนี้อยู่ ในนี้จะมีส่วนของฮอลเอาไว้จัดแสดงงาน มีสวนสาธารณะ (ใหญ่มากกกก) สนามเด็กเล่น เรียกว่ามาพักผ่อนได้ทั้งครอบครัวค่ะ

แล้วการ์ตูนกับสวนสาธารณะเกี่ยวข้องกันยังไง ? คือการ์ตูนเรื่องนี้ใช้สวนสาธารณะ และ Taiyou no Tou เป็นฉากหลายๆ ฉากในการ์ตูน ทำให้คนบ้าการ์ตูนเรื่องนี้อย่างเราต้องมาเห็นให้ได้ด้วยตาของตัวเอง




เผชิญหน้ากับเพื่อน





รูปนี้ถ่ายโดยโอบ้าจัง





เราจับ Hankyu จาก Kawaramachi ไปลงที่สถานี Ibarakishi แล้วไปต่อสาย Osaka Monorail ไปลงที่สถานี Bampakukinen kouen ได้เลย ส่วนอายาริมาด้วยกันแต่นางยาวไปลง Umeda เลย เดี่ยวตอนกลับมาเจอกันที่สถานีนี้ นัดเวลากันเรียบร้อย


ถึงสถานี Bampaku kinen kouen เราต้องเดินไปอีกประมาณ 10 นาทีก็จะถึงสวนสาธารณะเดินออกมาจากสถานีจะเจอ Taiyou no Tou เด่นเป็นสง่าอยู่รับรองว่ายังไงก็ไม่มีหลงค่ะ วันที่เราไปอากาศค่อนข้างดีแดดแรง แต่ก็ยังหนาวมาก รวมถึงดอกบ๊วยในสวนก็บานแล้วและก็สวยมากด้วยค่ะ แก้งค์ป้าลุงชมรมถ่ายรูปเต็มสวนเลย กล้องแพงๆ ทั้งนั้น แถมวันที่ไปนี่เด็กอนุบาลมาทัศนศึกษาเต็มเลย น่ารักมากๆ แหมมมม เห็นแล้วอยากมีลูก




เพื่อนโดนฝูงนกรุม





ซื้อตั๋วที่ช่องขายตั๋วอัตโนมัติราคา 250 เยน วิธีการก็เหมือนการซื้อตั๋วรถไฟค่ะ ตรงทางเข้าก็ให้สอดตั๋วเข้าไปเหมือนรถไฟเด่ะๆ เลย (ถ้าไม่ได้จริง ๆ งงจริง ๆ ก็มีคุณพี่พนักงานยืนให้บริการอยู่ค่ะ)

เล่าเรื่องตลกให้ฟัง เราเข้ามาด้านในแล้วเป็นช่วงที่เดินเข้ามาคนเดียว แล้วเราอยากถ่ายรูปกับ Taiyou no Tou แต่ไม่มีใครเลยรอบตัว ยืนอยู่สักพักก็มีป้าอายุประมาณ 70 สะพายกล้องตัวใหญ่ และแลดูแพงเดินเข้ามา ด้วยความที่เห็นคุณป้าสะพายกล้องตัวใหญ่ก็คิดว่าคุณป้าน่าจะใช้กล้องไอโฟนเป็นสิ !

เราก็เดินก็ไปบอกป้าเป็นภาษาญี่ปุ่นง่อย ๆ ว่าถ่ายรูปเราคู่กับ Taiyou no Tou ให้หน่อยได้ไหมคะ คุณป้าพยักหน้าพร้อมยืนงงกับไอโฟนสักพักก็หันมาถามเราว่า กดตรงไหนจ๊ะ ? เราเดินไปบอกคุณป้าว่ากดตรงนี้นะ ป้าก็บอกโอเคๆๆ แล้วยืนงงอีกสักพัก หน้าจอไอโฟนก็ดับลง T_T คุณป้าก็เดินมาถามว่าทำไมมันถึงดับหล่ะ อ่าาาาาห์ ก็แก้ปัญหากันไป คุณป้าก็ยังไม่ลดละความพยายามนะคะ ก็ยังยืนยันว่าจะถ่ายให้เราต่อไป ซึ่งไอโฟนของเราจะตั้งสั่นไว้เวลากดชัตเตอร์มันจะไม่มีเสียง แชะ ! ซึ่งคุณป้าก็กดถ่ายให้เราแล้วหล่ะ แต่พอมันไม่มีเสียงแชะ คุณป้าก็งงว่า เอะ ! นี่มันถ่ายไปแล้วหรือยัง ?!? เราก็เดินไปเช็ครูปก็เห็นว่าถ่ายแล้วก็ขอบคุณคุณป้าก็ชวนคุณป้าคุยค่ะ ทดสอบภาษาญี่ปุ่นง่อย ๆ ของตัวเองหน่อย ฮ่าาาาา คุยกับคุณป้ารู้เรื่องด้วย



เรา : มาคนเดียวเหรอค่ะ ?
ป้า : มากันหลายคนนะ มากับชมรมถ่ายรูปหล่ะ อยู่ทางโน้นกัน แล้วหนูมาคนเดียวเหรอ ?
เรา : ใช่ค่ะ ขอบคุณมากที่ถ่ายรูปให้นะคะ
ป้า : มาจากประเทศอะไรหล่ะ ?
เรา : ประเทศไทยค่ะ
ป้า : อ้อออ เที่ยวให้สนุกนะ เดี๋ยวไปหาเพื่อนก่อน


ก่อนเดินต่อมานั่งเช็ครูปอีกที ปรากฏว่าด้วยความที่คุณป้า (อาจจะ) ไม่ได้ยินเสียงชัตเตอร์ และกดปุ่มถ่ายค้างไว้ ทำให้มีรูปเราคู่กับ Taiyou no Tou ประมาณร้อยกว่ารูปปปปปปในท่าเดียว นั่งลบจนทรุดดดด .....




เพื่อนโดนบัง





เราเดินดูดอกบ๊วยรอบสวน จนหนำใจแล้วก็ได้เวลากลับแล้วค่ะ วันนี้เป้าหมายของเรามีแค่นี้จริง ๆ ทริปนี้เหมือนเป็นทริปโอตาคุ เพราะไปดูแต่หุ่นยนต์กับการ์ตูนเท่านั้นเองง่ะ >"<
จับรถไฟสาย Osaka monorail มาลงที่สถานี Ibarakishi เพื่อที่จะจับ Hankyu รอบเที่ยงอายาริกับฮารุกะ จะนั่งรอบนี้มาจาก Umeda เลยแล้วเดี๋ยวเจอกันในรถไฟตู้ที่สองนะ ฉันจะรออยู่ตรงนั้น แล้วเราเป็นพวกไม่เคยขึ้นรถไฟด้วยตัวเองก็สับสนนิดนึงแบบว่าเอาไงดีว่ะ ฮ่าาาา รถไฟมาตรงเวลาเราพยายามเดินไปตู้ที่สอง แต่ในขณะเดินก็รู้สึกว่ามีหลาย ๆ สายตากำลังจ้องอยู่แล้วเค้าคงคิดในใจว่าอีนี่จะเดินทำไม ? เค้าอาจจะไม่คิดก็ได้แต่เรารู้สึก ฮ่าๆๆ ก็เลยหยุดเดินแล้วนั่งอยู่ประมาณโบกี้ที่ 5 (อีก 3 โบกี้เอ๊งงงงง!!)

ก็ไม่รู้จะทำยังไง โทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้ เน็ตก็ใช้ไม่ได้ เอาไงดีว่ะ ตามบุญตามกรรมนะมึงเอ้ยยยย แต่สวรรค์มาโปรดค่ะ เราพบว่าที่สถานี Ibarakishi แห่งนี้มี Free Wifi สำหรับนักท่องเที่ยว เลยรีบล๊อคอินเข้าไปก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนตัวจากสถานีแล้วจะใช้ Wifi ไม่ได้ พิมพ์ข้อความด้วยความเร็วปานจรวดไปที่อายาริบอกว่า ตอนนี้ฉันอยู่ในรถไฟแล้วถ้าถึงสถานี Kawaramachi แล้วเราหากันไม่เจอเราไปเจอกันที่บ้านเลยนะ กด Send ปุ๊บ รถไฟออกปั๊บ โอ้ยยยย ระทึกกกกกกก





ข้างหลังเพื่อน เห็นแล้วนึกถึงสตาร์บัคส์ >"<!





เรานั่งมาถึงสถานี Kawaramachi แล้วเราปวดฉี่มากกกกกก เราวิ่งหาห้องน้ำก่อนเลย พอเสร็จธุระออกมาปรากฏว่าเราจำทางออกจากห้างไม่ได้ (สถานี Kawaramachi จะใช้ทางออกเดียวกับห้าง จำชื่อห้างไม่ได้) เราก็เดินมั่ว ๆ ไปออกประตูอะไรก็ไม่รู้อ่ะ คือไม่เคยจำเลยเพื่อนพาไปไหนมาไหนตลอด อันนี้เป็นข้อเสียของการไม่ศึกษาให้ดีนะ อย่าหวังเพิ่งแต่คนอื่นถ้าวันนึงมันเกิดเหตุการแอคซิเดนท์แบบนี้ขึ้นมันจะเงิบมากกกเหมือนที่เราเป็นอยู่ตอนนี้  ไม่ต้องหวังหรอกว่าจะหาเพื่อนเจอ เอาเป็นว่าแค่หาทางว่าจะกลับไปที่บ้านต้องออกประตูไหนเรายังตึ้บเลยตอนนี้


เดินออกจากตูห้างได้ก็มองไปรอบ ๆ ว่าตัวเองจะจำได้แค่ไหน ก็เดินออกมาเริ่มคุ้น ๆ ก็เดินไปเรื่อย ๆ ปรากฏว่าเจอเพื่อนนั่งรออยู่ที่หน้าตึก Marui โอ้ยยยย กรี๊ดดีใจน้ำตาไหล นี่เป็นการเจอโดยบังเอิญค่ะ ขอบคุณพระเจ้ามาก ๆ ไม่งั้นเราต้องเสียเวลาเดินกลับไปที่บ้าน เพื่อนถามว่าเธอมารถไฟรอบกี่โมง เราก็บอกว่าเวลาเดียวกับที่เธอบอกนั่นแหละ แล้วพยายามเดินไปที่โบกี้ที่สองแล้วแต่คนมองเยอะมากเหมือนเสียมารยาทก็เลยไม่เดินดีกว่า แล้วพวกนางก็ถามว่าแล้วทำไมถึงออกมาจากสถานีช้าจัง เราก็บอกว่าเราเข้าห้องน้ำอยู่ โอเค จบปึ้ง รับทราบเจอกันเรียบร้อยโรงเรียนเกียวโตนะแจ๊ะ




เด็กๆ ก็อยากดูเพื่อน






ซื้อของฝากเพื่อน




เจอกันแล้วเดี๋ยวไปช้อปปิ้งกันต่อค่ะ แล้วก็ไปทำอะไรสนุก ๆ กันเถอะ .......







ก่อนจากอยากแถม .......ดอกบ๊วยบาน




















































To be continue.........













No comments: