10/7/13

Manpower outing 2013 (2)


 
 
วันนี้มาต่อที่ซาฟารีไนท์ คือแต่งตัวแฟนซีเป็นธีมซาฟารี กิจกรรมในห้องประชุมเลิกประมาณ 2 ทุ่มและปาร์ตี้จะเริ่มตอน 3 ทุ่มนั่นหมายความว่าเราต้องแต่งตัวเสร็จประมาณ 2.45 แต่ ! เดี๋ยวก่อน ! เดินจากห้องประชุมไปที่ห้องพักก็กินเวลาประมาณ 20 นาทีแล้วจ๊ะ อาบน้ำแต่งตัวนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยนะ
 
 
วิ่งมาห้องประชุมกันแบบหูตาแหก หิวด้วยกลัวไม่ทันด้วย เพราะถ้าไม่ทันนั่นหมายความว่าเราพลาดอะไรหลาย ๆ อย่างไปกันเดียวทีเดียว (โดยเฉพาะการจับรางวัล) เราไปถึงห้องประชุมก่อนการจับรางวัลเริ่มแค่แป่บเดียว กินอาหารเย็นกันแบบลวก ๆ คือเหนื่อยจนไม่อยากจะกินอะไรแล้วหล่ะนะ
 
 
 
 
 
 
ว่าแล้วเรามาดูแฟนซีกันบ้างดีกว่า เราถ่ายมานิดเดียวแค่เรากับเพื่อนเราอีกทีมเท่านั้นเอง บอกแล้วว่างานนี้นอยด์แดกมากนะคะ ไม่อยากทำอะไรเลย



 
เพื่อนสาวนางแต่งเป็นม้าลาย ยังงงกับนางว่านี่มึงมีเวลาแต่งตัว 15 นาทียังเพ้นท์หน้าได้อยู่บร๊ะ !!











ถ่ายกับเพื่อนสาวแล้วถ่ายกับเพื่อนหนุ่มบ้างแก้งค์ซีบร้าบอย (ออกแนวโรคจิตด้วยฮ่ะ)



 
 


 
ทีมนี้ได้รางวัลแต่งแฟนซีนะคะ พวกนางแต่งเป็นอวตาร เห็นน้ำเงินทั้งตัวนั้นคือใช้สีเพ้นท์นะ ไม่ได้ใส่สกินนี่หรืออะไรเลย ซิกแพคกันจริง ๆ ไม่ได้ใช้สแตนด์อินอะไรทั้งนั้นจ๊ะ ฮ่าๆๆๆ





 
 
นี่อวตารตัวพ่อ คืออย่าเดินมาข้างหลังตอนเผลอนะ ตกใจจริงอะไรจริง






 
 
 
 
 
 
หมดคืนซาฟารีไนท์ไปแล้ว เราตื่นมา 8 โมงเช้ามากินอาหารเช้าและเดินทาง ไปกินอาหารเที่ยงแถว ๆ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แล้วไปต่อที่โรงถ่ายภาพยนตร์พระนเรศวรมหาราช เราเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก เห็นว่าอีกไม่นานก็จะทุบทิ้งแล้วนะคะ เพราะตรงนี้เป็นเขตพื้นที่ของทหารและเค้าจะเอาพื้นที่คืน แต่ก็สร้างมา 5 ภาคแล้วหล่ะ เรียกว่าคุ้มแล้วถึงแม้จะโดนทุบทิ้งก็ตาม แต่บอกกันตรง ๆ เลยว่าเราไม่เคยดูนเรศวรซักภาค แฮะๆๆ
 
 
 
 
 
เดินดูไปเหงื่อไหลไคลย้อย เพราะอากาศร้อนมากกกกก ปฏิมากรรมที่เห็นคือ จำลองมาจากของจริง พวกดีเทลเล็ก ๆ คือโฟมนะคะ เนียนมาก แต่ก็เริ่มมีการรื้อออกแล้วหล่ะ บางส่วนก็พังหมดแล้ว เห็นผู้บรรยายบอกว่ามีละครเรื่องอื่น ๆ ก็มาใช้สถานที่ในการถ่ายทำด้วยหลายเรื่องอยู่นะ
 
 
 
 
 




 
 
 
 
เจ้ส้มเคยบอกว่าฟ้าเมืองกาญสวย อันนี้คอนเฟิร์มเลยว่าสวยจริงค่ะ




 
 
 
 
 
อันนี้ตำหนักของใครสักคนคือเราก็เดิน ๆ อย่างเดียวอ่ะนะ ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เห็นลายไทยนั่นไหมโฟมทั้งนั้นค่ะ



 
 
 
 
 
ซูมกันให้เห็นชัด ๆ นะว่านี่คือโฟมจริง ๆ





 
 
 
 
ดอกบัวหน้าพระตำหนักของใครสักคน นี่ถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้คงจำได้ว่าบ้านใครแต่อย่างที่บอกไม่เคยดูไง ฮ่าๆๆ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ด้วยความที่อากาศร้อนมาก เราเลยเริ่มไม่แวะไหนแล้ว เดินผ่าน ๆ เลยได้รูปที่นี่มานิดเดียว แล้วก็ถ่ายจากไอโฟนด้วย คุณภาพก็ออกจะง่อยนิด ๆ ดูเสร็จก็ตรงดิ่งกลับกรุงเทพเลย และมีปัญหากับอีน้องสต๊าฟอีกแล้วจ้า........
 
 
1. พวกเราออกมาจากเดินดูในโรงถ่ายมาถึงที่รถแทนที่สต๊าฟมันจะบอกว่าให้ขึ้นรถคันไหน มันนั่งสูบบุหรี่กันพุ้ย ๆ เลย พวกกูก็เดินหารถเองไปสิ
 
2. รถเสีย เป็นรถคันเดียวที่เสียทั้งทริป ซึ่งเป็นสาขาอื่นนั่งมา อีหัวหน้าสต๊าฟ เดินขึ้นมาถามคนบนรถจ้าว่ามีเบอร์โทรรถคันที่เสียไหม อ้าวววว !!! อีห่ามึงเป็นสต๊าฟมึงควรรู้เบอร์รถทุกคันไหมเนี่ย แล้วพวกกูต้องรู้เบอร์รถบัสไปทำไมเนี่ย
 
 
 
และมีปัญหาอีกร้อยแปดพันประการเกิดขึ้นนะคะ กับอีพวกสต๊าฟเนี่ย เล่าสองวันก็ไม่จบเฮ้ออออ....
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

No comments: