9/2/13




สวัสดีเดือนกันยายน อย่างเป็นทางการนะคะ ผ่านไปอีกเดือนนึงแล้ววววววว......


วันนี้ลืมความเศร้าแล้วมาอัพไดแห่งความสุขกันดีกว่า เห็นหัวข้อไดก็น่าจะรู้กันแล้วล่ะเนอะว่าแฮปปี้ดี๊ด๊ากันแค่ไหน
เราว่างานนี้เป็นงานที่ทุกคนในไดคลับรอคอยจะอ่านกันเลยทีเดียวหล่ะ แต่เราขอเจ้าของงานเอามาลงแบบแค่น้ำจิ้มพอ
เดี๋ยวเต็ม ๆ ให้เจ้าของงานเค้าอัพเองดีกว่า

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเราลางานเพื่อไปงานแต่งเจ้ส้มได Sommersomm นั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์ไปที่กาญจนบุรีบ้านเจ้ส้ม
ไปถึงกาญตอนบ่ายสองเราไปรอที่บขส. เพราะเจ้ส้มทำธุระอยู่แถวนั้นพอดี ก็เลยแวะมารับ จะบอกว่าแดดเมืองกาญร้อนมาก
เรียกว่าไม่แพ้แดดกรุงเทพนะ (เผาควายตายจ๊ะพูดเลยยย) เจ้ส้มมารับเราพร้อมกับเพื่อนนางที่มาจากออสเตรเลียชื่อลีฟ
พอมารับเราเสร็จก็ยังไม่เข้าบ้านนะขับรถวนเมืองกาญก่อน คือต้องจัดการโน่นนี่ให้เรียบร้อยอ่ะกว่าจะเสร็จงาน
ก็ประมาณ 6 โมงเย็นก็ขับรถกลับมาที่บ้านหนองขาว เรามาจัดสถานที่กันต่อ จัดไปเม้าท์ไปนะ กว่าจะได้นอนกัน
ก็ปาเข้าไปตีสองตีสามหล่ะ





ได้เจอเพื่อนใหม่เพิ่มอีกคนนึงชื่อหนิง หนิงเป็นออแพร์ที่สวีเดนและเป็นเพื่อนกับตาล หนิงกลับไทยมาช่วงนี้พอดี
ก็เลยมาช่วยงานด้วยก็เลยได้เจอกัน ได้คุยกับหนิงเรื่องเกี่ยวกับออแพร์ และการทำงานต่าง ๆ เรียกว่าคุยกันถูกคอ
และคุยกันสนุกเหมือนรู้จักกันมาเป็นสิบ ๆ ปี
เราหนิงแล้วก็ตาลทำงานออกแนวเป็นกรรมกรแบกหาม คือยกโต๊ะกันทั้งงานอ่ะ แล้วกินจุอย่างกรรมกรด้วย ฮ่าๆๆ
คืออาเจ้ส้มทำอาหารอร่อยมากกกกก แล้วอาก็จะทำอาหารทั้งวันเราก็กินทั้งวันเหมือนกันเรียกว่ากินกันจนท้องอืดเลย
คือดูจากรูปได้จะเห็นว่าเราอ้วนขาใหญ่มากกกกกกกกก !!!









นอกจากเจอเพื่อนใหม่ที่น่ารักอย่างหนิงแล้ว เรายังเจอญาติ ๆ เจ้ส้มซึ่งน่ารักกันทุกคน คือทุกคนทำกับเราเหมือนว่า
เป็นลูกเป็นหลานคนนึงเลย ไม่รู้สึกห่างเหินหรือเขอะเขินแต่อย่างใดก่อนกลับนี่กอดกันน้ำตาไหลไปหลายรอบ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเจ้ส้มกับตาลทำไมถึงแต่คนรัก ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นมันเป็นแบบนี้สินะ น่ารักกันทั้งบ้านเลย









งานตอนเช้าผ่านไปเรียบร้อยดี ตอนจัดโต๊ะช่วงบ่ายมีฝนตกลงมาค่อนข้างหนักและตกถึงดึก ๆ เลย แต่งานก็ผ่านไป
อย่างราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร เรา ตาล หนิง ยืนที่โต๊ะต้อนรับซึ่งข้าง ๆ เป็นซุ้มเหล้าปั่นจ้า...ปั่นกันสดๆ ตรงนั้นแหละ
พวกเรารับแขกไปกระดกเหล้าปั่นไปมีฟามสุขไม่น้อยไปกว่าบ่าวสาวเลยนะฮ้า....//พูดด้วยหน้าตาแดงก่ำ









งานเสร็จแขกกลับหมดประมาณ 4 ทุ่มพวกเราก็นอกรอบกันต่อเรียกว่านอนกันเกือบตี 4 นะ ตื่นมาอีกทีคือกินข้าวเที่ยงเลย
พอบ่ายแก่ ๆ เคลียของเสร็จเจ้เต่าพาพวกเราไปกินส้มตำในตัวเมืองส่วนเจ้ส้มพาครอบครัวพี่แหย๋นไปนวดในเมืองเช่นกัน
แล้วเจ้เต่าก็พาไปที่สะพานข้ามแม่น้ำแควเดินไปดูพิพิธภัณฑ์สักพัก เย็น ๆ ก็กลับมาที่บ้านพวกเรานั่งกินตำมะม่วงต่อ
แก้งค์เจ้ส้มยังไม่กลับมาสักประมาณ 3 ทุ่มเจ้ส้มกลับมาก็มาร่วมวงเม้ามอยท์ คือแต่เม้าท์ได้แค่แป่บเดียวนะ
เพราะว่าแต่ละคนงอมกันมาก ๆ พูด ๆ ไปแล้วหลับกลางอากาศกันเลย









เราออกจากบ้านเจ้ส้มเช้าวันจันทร์ (วันนี้) ตอน 7 โมงเช้า มาถึงกรุงเทพตอนประมาณ 10 โมงก็เลยมาทำงานต่อเลย
ใจจริงไม่อยากกลับเลยอ่ะอยากอยู่บ้านกลางทุ่งต่อ สงบมาก เงียบมาก เย็นดีรถก็ไม่ติดผู้คนก็อัธยาศัยดี คืออาลัย
อาวรณ์มาก เจ้เต่าบอกว่าง ๆ ก็มานอนได้นะ บ้านแม่ไม่เคยล็อค คือฟังแล้วน้ำตาคลออ่ะ รักเจ้เต่า







เสร็จไปอีกงานกับงานที่มีแต่ความสุขและเสียงหัวเราะ ทั้งเจ้าของงานและผู้ร่วมงาน
สุดท้ายนี้ก็ขอให้เจ้กับพี่แหย๋นมีความสุขมาก ๆ นะคะ ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพ็ชร มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง
แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้นะคะเจ้
:))



No comments: