7/14/15

Japan Summer 2015 : From Narita to Yokohama - นั่งรถไฟราคาถูกเข้าเมือง




ในที่สุดก็มาถึงนาริตะอย่างปลอดภัย ด้วยแอร์เอเชียเอ็กซ์ XJ600 ที่บันเทิงตลอดการเดินทางด้วยคุณแอร์โฮสเตสชื่อทรายสีเพลิง

ส่วนมากไฟล์ทนี้จะเป็นกรุ๊ปทัวร์ที่โดนย้ายมาจากเจทเอเชียค่ะ เจอชะตากรรมเดียวกัน แต่ก็ถือว่าดีนะ เจอลูกเรือที่น่ารักมาก

ทำให้อารมณ์ที่เสีย ๆ จากการย้ายสายการบินดีขึ้นมาได้มากทีเดียว





ด้วยความที่รู้ล่วงหน้าว่าจะเจอมวลมหาประชากรุ๊ปทัวร์มหาศาลเราเลยทำเว็บเช็คอินมาจากบ้านเรียบร้อย 

เค้าเตอร์เช็คอินเปิดก็เอากระเป๋าไปดรอปเลย ไม่ต้องรอคิวยาว





ตามเวลาเครื่องต้องแลน 8 โมงเช้า (เวลาญี่ปุ่น) แต่วันนี้แลน 7.45 เร็วขึ้น 15 นาทีเป็นครั้งแรกที่เรามานาริตะ 

และเป็นไปตามคาดเจอซุ่มตรวจกระเป๋า เรามาญี่ปุ่น 5 ครั้งแล้ว และเจอซุ่มตรวจกระเป๋าไป 3 ครั้ง ทั้งคันไซ ฮาเนดะ และครั้งนี้นาริตะ

เรียกว่าเจอจนชิน บอกเจ้าหน้าที่ไปว่าเจอมา 3 ครั้งแล้วตรวจกระเป๋าเนี่ยอยากค้นไรค้นไป ไม่มีอะไรต้องกังวล 

อาจเป็นเพราะผู้หญิงเดินทางคนเดียวด้วยมั้งนะเราว่าเลยเป็นที่น่าจับตาเป็นพิเศษ






งานอดิเรกคือลองกาแฟในญี่ปุ่น เนสกาแฟรสนี้ไม่ผ่านนะคะ






หลังจากผ่านด่านต่าง ๆ มาได้ก็ไปซื้อตั๋วรถไฟกันเลย รอบนี้เราแลกเงินมาทั้งหมด 7000 เยน ไม่ผิดค่ะ เจ็ดพันไม่ใช่เจ็ดหมื่น 5555

ตีเป็นเงินไทยก็สองพันบาทถ้วนมีถอนมาให้ด้วย 41 บาท ฮ่าๆๆ ตอนแลกนี่พนักงานมองหน้าเลย ประมาณว่ามึงจะใช้พอเหรอ

7000 เยนนี่คือเฉพาะค่ารถไฟเข้าเมืองค่ะ ส่วนค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเที่ยวไปหาเอาข้างหน้ามีเตรียมไว้แล้ว แฮ่ๆๆๆ





โอเคคคคคคค หลังจากที่ออกมาจากตม.แล้วหาป้าย Train แล้วเดินตามป้ายไปเลยค่ะ ป้ายจะพาเราลงมาด้านล่าง

ก็จะเจอรถไฟสายเจอาร์ กับ เคเซย์ ของเจอาร์จะเป็นเค้าเตอร์สีแดงนะคะ ส่วนเคเซย์จะเป็นสีน้ำเงิน และส้ม

เจอาร์ราคาจะประมาณ 3-4 พันเยน ส่วนเคเซย์สกายไลน์ (สีส้ม) ประมาณ 2-3 พันเยนเช่นกัน วันนี้เราจะไป 1030 เยน สีน้ำเงิน






ด้วยความที่มันเป็นรถไฟไม่ด่วน จะใช้เวลาวิ่งประมาณ 75 นาที เหมาะสำหรับคนไม่รีบ และไม่มีโปรแกรมใด ๆ

ถ้าใครง่วงก็หลับมันบนรถไฟนั่นล่ะค่ะ ถ้ากลัวเลยป้ายก็ตั้งเวลาเอาไว้ คงนอนได้ซักตื่นอยู่นะ ฮ่าๆๆ

เราจะนั่งไปลงเกือบสุดสายคือนิปโปริ และสามารถเปลี่ยนสายรถไฟไปอูเอโนะ หรือชินจุกุได้ที่สถานีนี้ค่ะ










เราผ่านตม. ออกมาประมาณ 8.30 คือเร็วมากทั้งตม.ทั้งกระเป๋าแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง นั่งกินกาแฟ อึ ต่าง ๆ นา ๆ 

เพราะกะเวลาให้บรรดาซาลารี่แมนไปทำงานให้หมดก่อน ไม่อยากไปเบียด (ใครเคยเจอคงรู้ว่านรกแค่ไหน) 

เราขึ้นจากต้นสายก็ได้นั่งไปตลอดทาง มีเผลอหลับบ้างเป็นระยะ แต่ก็สะดุ้งตื่นเพราะกังวลว่าจะถึงสถานีปลายทาง

พอถึงนิปโปริแล้วเราเปลี่ยนสายไปเป็นยามาโนเตะ เพื่อไปชินะกาวะ เพื่อไปโยโกฮาม่าอีกในราคา 700 เยน 

และจากโยโกฮาม่าไป ฟูตามะตากาว่าอีก 200 เยน รวมทั้งหมดเป็น 1930 เยน ถือว่าถูกแล้วนะสำหรับเรา 




















แต่การจะได้มาซึ่งของราคาถูกนั้นก็ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย การแบกกระเป๋าเปลี่ยนสายรถไฟค่ะ 

โชคดีอยู่อย่างคือสถานีรถไฟญี่ปุ่นมันมีลิฟท์ไง ถ้าเป็นที่ไทยคงแบกกันหลังหัก นอกจากเราจะเสียเวลาดูสายรถไฟแล้ว

เรายังเสียเวลากับการลากกระเป๋าเดินทางกว่า 20 กิโลไปๆ มาๆ กับตัวด้วย ทำไงได้เนอะ ก็คนมันงบน้อย







เอาละค่ะ ในที่สุดรถไฟแสนช้าราคาถูกก็พาเรามามชถึงเป้าหมายพร้อมกับฝนที่ตกปรอย ๆ ต้อนรับตลอดตั้งแต่เช้า

โชคดีนะที่ตกเบา ๆ แค่สเปรย์ ไม่ต้องลำบากถือร่มอีกอันไม่งั้นได้มีร้องไห้อ่ะ 







พรุ่งนี้ไปเที่ยวโยโกฮาม่ากันค่ะ 






No comments: