4/18/14

ทริปเยี่ยมญาติ Japan 2014 : Modern Cafe' Kyoto สุดท้ายนี้ที่เกียวโต









บล็อกนี้เป็นหน้าสุดท้ายสำหรับทริปญี่ปุ่นแล้ว นับว่าเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่คุ้มมาก ๆ เรียกว่าใช้ทุกวินาทีชีวิตได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดกันเลยทีเดียว  ไหน ๆ ก็ญี่ปุ่นหน้าสุดท้ายแล้วอ่ะนะ ก็จะกลับมาเข้าสู่ชีวิตปกติกันแล้วอ่ะนะ ขอขายของกันหน่อยละกันนน คลิ๊กสิ ! คลิ๊ก !
v
v
v
http://www.youtube.com/watch?v=IeYs_nlNf64 v






จากหน้าที่แล้วเราไปกินไก่ย่างกันที่โอซาก้า เราออกจากร้านไก่ย่างเกือบ ๆ รถไฟเที่ยวสุดท้าย เราจับ Keihan กลับมาเหมือนเมื่อเช้ามาลงที่สถานี Sanjo เหมือนเดิม และเราก็เริ่มงอแง เรายังไม่อยากกลับบ้านเลยอยากใช้เวลาสุดท้ายให้นานที่สุด (ซึ่งตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้วหล่ะ) อายาริเลยเสนอว่างั้นเราไปนั่งคาเฟ่ชิล ๆ กันเถอะ แถวนี้มีร้านกาแฟอยู่ร้านนึงเปิดถึงเที่ยงคืน (ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ปิดดึกกว่านั้นนะ)






รถไฟทอมัสที่เราไม่ได้นั่ง 






นอกจากดึงดูดเด็กได้แล้ว ยังดูดป้าอย่างเราได้ด้วยค่ะ






Modern's cafe, Modern menu






อายาริพาเรามาที่ตึกตึกนึง (เราจำชื่อตึกไม่ได้ ซึ่งอย่าคาดหวังว่ามันคือรีวิวนะ อ่านเอามันส์ก็พอ) กดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 5 ออกมาก็จะเจอร้านกาแฟเก๋ ๆ อยู่ร้านหนึ่ง ประมาณเที่ยงคืนแล้วมีลูกค้าอยู่ประมาณ 2-3 โต๊ะ มีพนักงานอยู่ 2 คน คนนึงรับออร์เดอร์และคนนึงทำอาหาร
ที่ร้านนี้ก็จะมีอาหาร เค้า กาแฟ เบียร์ ฯลฯ เรียกว่าครอบคลุมทุกอย่างถ้าตกลงกันไม่ได้ว่าจะกินอะไรจะกินของคาวหรือของหวานดี แนะนำให้มาร้านนี้นะคะ (แกจะไปแนะนำใครรรร ขนาดชื่อร้านแกยังจำไม่ได้เล้ยยยยย!!!)





ยัยโอบ้าจังจะหน้าแรงเกินฉันไปแล้วนะย่ะ แหมมมมม!!!!












อายาริจัง & ทัคจัง








พ่อค้าแซ่บบบบบบบบบบ เว่อร์ !!!!!!!!!






ขอแอบเม้าท์พ่อค้าแซ่บกันนิดนึงค่ะ จากการพิสูจน์ด้วยสายตาของชะนีกร้านโลกอย่างเราแล้วคอนเฟิร์มว่าไม่เกย์ค่ะ ถามว่าจากรูปแซ่บแค่ไหน คือก็แซ่บแบบผู้ใหญ่อ่ะ สูงยาวเข่าดีและมีสไตล์ วัยรุ่นอาจจะไม่ถูกใจแต่ป้าชอบ เครนะ !
ฮีเดินมาถึงที่โต๊ะ ก็นั่งย่อตัวกับพื้นรับออร์เลยเลย (คือแค่พี่เดินมาเฉย ๆ ก็โคตรหล่อแล้วไงคะ แค่นี้ข้าพเจ้าก็กรี๊ดแล้ว แต่นี่มานั่งรับออร์เดอร์คือพี่จะหล่อเอาโล่เลยไหมล่ะคะ) พี่ทำสาวโสดเพียงหนึ่งคนตรงนี้ละลายนะจ๊ะ พี่รู้ไหมมมมม ????  ตอแหลยกโทรศัพท์ขึ้นมาทำเป็นถ่ายรูปร้านเก๋ ๆ กูกดหน้าพี่แซ่บรัวววววววววว ค๊าาาาา !!! พอพี่แซ่บเดินไปอายาริแอบกระซิบว่า ฉันคิดว่าเค้ารู้ว่าเธอแอบถ่ายรูปเค้า เราก็ตอบไปว่าฉันก็รู้ว่าเค้ารู้ ฮ่าาาาาา หลังจากนั้นพี่แซ่บไม่เดินมาอีกเลยจนกระทั้งตอนคิดเงินจ้าาาาา....
ป.ล.แรดเรี่ยราดนะกูนี่ !






ออร์เดิร์ฟที่อย่าคาดหวังความอร่อย







ตะกร้าใส่ของแบบโมเดิร์น






ตกแต่งแบบโมเดิร์นสไตล์






พอพี่แซ่บรับออร์เดอร์ไปแล้วสักพักนึงก็ถือถ้วยออร์เดิร์ฟมาเสิร์ฟ ออร์เดิร์ฟถ้วยนี้ฟรีนะจ๊ะเป็นบิสกิต คุ้กกี้ ต่าง ๆ  นั่งแทะนั่งกินได้ตามใจชอบ จะมาจุ่มกาแฟกินก็ได้ ส่วนรสชาติก็พอกินได้แบบของฟรีทั่วไป >"< จงอย่าคาดหวังว่าญี่ปุ่นมันจะอร่อยทุกอย่างนะก๊ะ T A T

สักพักกาแฟก็มาเสิร์ฟ ผู้หญิง 3 คนสั่งร้อน ส่วนผู้ชายคนเดียวสั่งลาเต้เย็น รสชาติกาแฟก็โอเคนะใช้ได้ประมาณกลาง ๆ เราว่าแค่บรรยากาศดี ร้านสวย พนักงานงานแซ่บ เอ้ยยย !!! บริการดี รสชาติมันก็จะดีขึ้นตามไปด้วย จริง ๆ นะ





ตกแต่งแบบโมเดิร์นสไตล์







ปูนเปลือย ๆ บนเพดานนับว่าเป็นโมเดิร์นอีกรูปแบบหนึ่ง






นั่งเม้าท์มอยกันอะไรกันไปแอบสังเกตุหน้าเพื่อน ๆ ว่าง่วงหงาวหาวนอนกันมาก ๆ เลยชวนกลับดีกว่าเกรงใจด้วย ออกจากร้านประมาณตีหนึ่งได้ ก่อนกลับอายาริพาไปเดินพาไปเดินดูตรงริมหน้าต่างมีเก้าอี้ตั้งไว้ด้านนอกด้วย วันไหนที่หายหนาวแล้วอากาศดี ๆ ก็นั่งริมระเบียงชิล ๆ ได้ ระหว่างที่ยืนมองริมแม่น้ำอยู่นั้น หิมะตกจ้าาาาาา !!! แต่ไม่ได้ตกหนักอะไร แค่ตกพอให้กระเหรี่ยงได้กรี๊ดกร๊าดบ้างอะไรบ้าง
มารอบนี้ไม่เจอหิมะเลยยยยยย ตอนไปคานาซาว่าก็หวังว่าจะได้เห็นปรากฏว่าไม่มีซะงั้น เพื่อนเราบอกว่าปีนี้คานาซาว่าหิมะน้อยมากกว่าทุกปีอาจจะเป็นเพราะโดนพายุหอบไปตกที่โตเกียวหมดแล้ว ^^< แหมมมม ก็คิดได้นะคะ (โตเกียวเจอพายุหิมะเมื่อกุมภาพันธ์)






กาแฟแซ่บ (เพราะพ่อค้าแซ่บ)








วิวจากร้านที่มองเห็นแม่ คาโมกาว่า ริเวอร์ ถ้าอากาศไม่หนาว เราสามารถนั่งชิลริมระเบียงได้ค่ะ
เห็นสายสีขาวในรูปไหม??  หิมะกำลังตกหล่ะ






ใช้เวลาเดินจากตรงนี้ไปบ้านอายาริประมาณ 10 นาที ทุกคนจอดจักรยานไว้ที่บ้านอายาริ ถามว่าทำไมทุกคนถึงมาจอดจักรยานไว้ที่บ้านอายาริ ??? เพราะบ้านอายาริใกล้สถานีใหญ่ ๆ อย่าง Sanjo และสถานีต้นสายอย่าง Hankyu Kawaramachi และด้วยความที่บ้านอายาริมีพื้นที่มากพอสมควร จึงทำบริการพื้นที่จอดรถ (จอดได้ประมาณสิบกว่าคัน) เราว่านับเป็นรายได้ส่วนหนึ่งที่ดีมาก ๆ สำหรับญี่ปุ่นค่ะ เพราะค่าเช่าที่จอดรถแพงมากจริง ๆ ทำให้เพื่อน ๆ พลอยได้อานิสงค์การจอดจักรยานไปด้วย นัดกันเอาจักรยานมาจอดบ้านอายาริแล้วเดินไปที่สถานีพร้อมกัน

ถึงบ้านแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน ร่ำลากันพอให้ได้ร้องห่มร้องไห้ดราม่ากันสักเล็กน้อย จัดการตัวเองเรียบร้อยปล่อยอายาริไปนอนส่วนเรานั่งจัดกระเป๋าต่อ (เพราะมีงอกออกมา 3 กระเป๋าบ้าไปแล้วเหอะ) ไฟล์ทขากลับเรา 11.30 น. ต้องถึงที่สนามบินเพื่อเช็คอินประมาณ 9 โมง เราไม่รู้ว่าคนจะต่อคิวเช็คอินเยอะแค่ไหนดังนั้นเผื่อเวลาจะดีกว่า เราออกจากบ้านเพื่อให้ทันรถไฟรอบก่อน 7 โมงเช้า

ตอนเช้าม่าม้าขับรถมาส่งที่ Hankyu Kawaramachi ร่ำลากันร้องห่มร้องไห้อีกแล้วววว เกลียดบรรยากาศแบบนี้ !!!! ม่าม้าจอดรถข้างทางนานไม่ได้เดี๋ยวตำรวจมาต้องรีบขับออกไป อายาริพาเราไปซื้อตั๋วเพื่อไปที่สนามบินเราไม่นั่งชินคันเซ็นเพราะอย่างที่บอกว่าทริปนี้จนยิ่งนัก เรายอมตื่นเช้าและนั่งหลายต่อถ้าเรามาคนเดียวคงยอมควักกระเป๋านั่งชิงคันเซ็นหละ เพราะไม่อยากเปลี่ยนสายรถไฟกลัวหลง T__T อายาริมาด้วยอุ่นใจนั่งอะไรก็ได้ (แต่ราคาก็ไม่ต่างกันมากหรอกค่ะประมาณเกือบ 2000 เยนเอ๊งงง!!!) ตอนที่กำลังจะหยอดเงินซื้อตั๋วนั้นอายาริบอกว่าไม่ต้องจ่ายนะ ม่าม้าให้เงินมาค่าตั๋วไปสนามบินของเธอกับค่าตั๋วไปกลับของฉันด้วย ม่าม้าบอกว่านี่เป็นสิ่งสุดท้ายในญี่ปุ่นที่สามารถจะทำให้ปูจังได้ อีนี่ยืนน้ำตาไหลลลลลล ปลื้มปริ่มมมมม T_________T ขอบคุณนะคะม่าม้าาาาาา







รวม ๆ ก่อนจาก






เรามาถึงสนามบินประมาณ 8 โมงกว่าๆ และไปต่อแถวเช็คอินโชคดีคนน้อยมากๆ ทำให้เราเช็คอินเสร็จภายใน 5 นาที และเรามีเวลาไปนั่งกินอาหารเช้ากับอายาริจังก่อนด้วย และแน่นอนนี่ก็เกิดดราม่าก่อนเข้าเกทอีกแล้วววววว (อยากตะโกนร้อยครั้งว่าเกลียดการร่ำลาาาาาาาา)

ปิดทริปนี้ไปอย่างสวยงาม เป็นทริปที่มีความสุข สนุก และโชคดีที่สุด ทริปนี้เกิดเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่จะเรียกว่าทริปแห่งความโชคดีก็ได้ไม่ว่าเราจะวางแผนอะไรในทริปนี้เรามักจะทำสำเร็จตามแผนทุกอย่าง หรือหากว่ามีอะไรที่ผิดพลาดไม่ตรงตามแผนแต่เราจะได้สิ่งที่สำรองที่ดีสุด ๆ ทุกครั้ง เป็นทริปที่เหมือนจะแน่นเอี๊ยด คิวเต็ม แต่เราก็สามารถทำตามแพลนได้อย่างลงตัวไม่เหนื่อย ไม่งอแง ไม่งี่เง่า เพื่อนตามใจจนแทบจะเสียผู้เสียคน ฮ่าๆๆๆ การเดินทางเที่ยวคนเดียวมันก็ดีอย่างนี้นี่เองนะ ทริปหน้า
(ถ้ามีตัง) ก็ขอบุกเดี่ยวอีกละกัน :))



จบทริปเจแปนแล้ว บล็อกหน้าจะกลับเข้าสู่ชีวิตปกติแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านกันนะคะ












No comments: