กลับมาถึงเกียวโตตอนทุ่มนึงเป่ะ ชาวคณะอิโตแฟมิลี่นั่งรอไปกินเนื้อย่างอยู่แล้ว วันนี้น้องสาวกลับบ้านเร็วเพื่อจะไปกินกับเราด้วยเพราะพรุ่งนี้น้องจะไปฟุกุโอกะแต่เช้าและจะกลับมาวันเรากลับพอดี ซึ่งเรากลับไฟล์ทเช้าน้องมาถึงบ้านตอนสายไม่ได้เจอกันแน่แล้วววว วันนี้เลยถือโอกาสไปเลี้ยงส่งเราด้วยเลย {(-_-)}、
เอาแผนที่ร้านมาแปะไว้ให้สีเขียวคือบ้านอายาริสีแดงคือร้านเนื้อย่าง ลงสถานีที่เห็นแล้วเดิน 10 นาทีจ้าาา
น้องสาวเอาของฝากมาให้บอกว่าเผื่อกลับมาไม่ทันเจอกันให้วันนี้เลยก็แล้วกัน คือดูดิ!บ้านก็ให้อยู่ฟรี ข้าวก็เลี้ยงแถมยังมีของฝากให้อีกอะไรจะน่ารักกันขนาดนี้อ่ะค๊าาาาาา
เสร็จขบวนการของฝากเราก็เดินตามม่าม้าไปกันต้อยๆ สักประมาณ 10 นาทีก็มาถึงร้านเนื้อย่างซึ่งชื่อร้านเป็นภาษาญี่ปุ่น แน่นอนว่าถ้ามาเองก็ไม่รู้หรอกว่านี้มันร้านอะไร
หน้าร้านดูเป็นบ้านคนธรรมดาถ้าเป็นร้านอาหารก็ธรรมดาเลยนะแต่พอขึ้นมาชั้นสองเท่านั้นแหละ แหมมม ! มันสัมผัสได้ถึงรังสีความหฤโหดของราคานะจ๊ะ
น้องพนักงานที่มารับออร์เดอร์ก็น่ารักมากคือร้านนี้พนักงานใส่เครื่องแบบเป็นยูกาตะค่ะแล้วน้องหน้าเหมือนญารินดา โห้ยยยยยย พอพนักงานเดินไปเรานี่หันไปบอกอายาริเลย พนักงานแม่งคาวาอี้ว่ะ !!!
ถ่ายรูปครอบครัว
ชื่อร้านดูที่กระดาษหุ้มตะเกียบเอานะก๊ะ เค้าอ่านไม่ออก
ด้วยความที่เมนูเป็นภาษาญี่ปุ่นเลยยกให้เจ้าบ้านเค้าสั่งไปเลยเราอ่านออกคำเดียวคือ บี หรุ หรือ เบียร์นั่นเองงงงง น้องสาวสั่งเป็นเลม่อนผสมแอลกอฮอล์อร่อยมากกกก (คืออะไรที่เป็นแอลกอฮอร์สำหรับเรานี่อร่อยทุกอย่างสินะ) หลังจากหมดเบียร์แก้วโคตรใหญ่ของตัวเองแล้วเราก็สั่งแบบน้องสาวต่อ แหมมม!!! หลายขนานนะค่ะ
จานแรกมาเป็นเนื้อสไลด์(แต่ส่วนไหนไม่รู้) มาพร้อมเลม่อน 4 ซีกเราก็มองว่าเลม่อนนั้นคือการประดับตกแต่งเฉยๆ แต่ !!!! เลม่อนที่ฝานมาเอามาเป็นซอสจ๊ะ ตอนแรกคิดว่าเนื้อย่างจิ้มมะนาวคือมันจะอร่อยเหรอว่ะ ? ญี่ปุ่นแม่งคิดอะไรแผลงๆ หลอกกูให้กินนัตโตะนั่นก็ทีนึงล่ะ ปรากฏว่าจิ้มตามและอร่อยมากจ้าาาาาา คนญี่ปุ่นนี่ล้ำเนอะรู้ได้ไงว่าเนื้อย่างแบบนี้ต้องจิ้มเลม่อนแล้วจะอร่อย
ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ !!!!
เพื่อนรักไม่หักเหลี่ยมแต่นางโหดมากกกกกก
กินไปเม้าท์มอยไปจนกระทั่งถึงเวลาของหวาน เราสั่งเป็นพุดดิ้งเหมือนกันทั้งหมดสี่คน พอพนักงานมาเสิร์ฟมีไอติมชาเขียวถั่วแดงมาด้วยแอบงง กันนิดนึง สอบถามได้ความว่า วันนี้เป็นวันผู้หญิง (3 มีนาคม) สำหรับลูกค้าผู้หญิงเลยมีของแถมพิเศษให้
แหมมมม ขอเปลี่ยนเป็นเนื้อติดมันซัก4 จานได้ไหมคะ
หน้าเริ่มเมาแล้วววว
ออร์เดิฟกิมจิ
เซ็ทแรกเนื้อวัว แต่ส่วนไหนไม่รู้นะ T_T
บนโต๊ะเนื้อย่างเราคุยกันถึงเรื่องคนญี่ปุ่นกินไข่ดิบแล้วราดลงบนข้าว ดราบอกว่าไข่ไทยกินดิบๆ ไม่ได้เพราะมันไม่สดและมีกลิ่นคาวเราอยากลองกินไข่ดิบแบบนี้บ้าง
ม่าม้าจัดให้จ้าาาา ระหว่างมางเดินกลับบ้านม่าม้าแวะซื้อไข่ที่ซุปเปอร์ด้วยแผงนึงหันหน้ามาบอกเราว่าพรุ่งได้กินแล้วนะปูจัง ฮ่าาาา
ซุปไข่+ข้าว อายาริสั่งมากลัวเราไม่อิ่ม
เซ็ทเครื่องใน
อันนี้พระเอกกับนางเอกของงาน ตอนปิ้งนี่ดังฉ่าาาา !!
ป้ายด้วยมิโสะแล้วห่อด้วยผักสไตล์เกาหลี
แม่ปิ้งให้กิน
นุ่มชุ่มลิ้นละมุนละไมมมมมมม
ซุปผักซักอย่าง
ปิดท้ายด้วยของหวาน
น้องสาวร่าเริง
โกจิโซซามะเดชิตะ ! ごじそうさまでした☆
เดินฝ่าลมหนาวกลับบ้านด้วยความอิ่มที่แทบจะกลิ้งแทนเดิน ( มันอิ่มอีพุดดิ้งกับไอติมชาเขียวนั่นแหละ) พรุ่งนี้อายาริทำงานช่วงเช้าส่วนเราก็จะไปตามรอยการ์ตูนตามประสา แล้วไปกินข้าวที่บ้านเพื่อนตอนเย็น ส่วนตอนนี้แยกย้ายกันไปนอนพรุ่งนี้ออกจากบ้าน 9 โมงอีกแว้ววววว ....
To be continue ......
No comments:
Post a Comment