หลังจากเสร็จโปรแกรมเดินเที่ยวคานาซาว่าตามประสาเด็กแนวแล้วยูเรียซังชวนเราไปจอยงานปิดนิทรรศการชื่อนิทรรศการว่า SHIMABUKU : NOTO คือนอนบ้านยูเรียซังอยู่แล้วคืนนี้ชวนไปไหนก็ไปหมดอ่ะ
Noto เป็นเมืองเล็กติดทะเลอยู่ขึ้นไปทางด้านเหนือของคานาซาว่า งานชิ้นนี้จะแสดงถึงวัฒนธรรม อาหาร และวิถีชีวิตของชาวโนโต ซึ่งยูเรียซังบ้านเกิดอยู่ที่โนโตจึงอาสามาเป็นผู้ช่วยที่นิทรรศการนี้ และคุณพ่อคุณแม่ของยูเรียซังก็ได้รับเชิญไปเป็นที่ปรึกษาและวิทยากรพิเศษในงานนี้ด้วย
โต๊ะลงทะเบียน
นิทรรศการนี้จัดแสดงมาตั้งแต่ปีที่แล้วและวันปิดนิทรรศการนี้คือจัดแสดงมาครบ 1 ปีพอดีถือว่าเป็นนิทรรศการที่ค่อนข้างใหญ่และศิลปินมีชื่อเสียงงานปิดนิทรรศการเลยมีผู้มาร่วมงานค่อนข้างเยอะ
ผู้มาร่วมงานปิดนิทรรศการนี้ต้องจ่ายคนละประมาณ 2000 เยนเพื่อร่วมงานค่ะเรียกว่ามากินข้าวเย็นด้วยกันแล้วหารจะเหมาะกว่า ส่วนเรานี่พิเศษจ๊ะไม่ต้องจ่าย แฮ่ ..... ขอบคุณง้าบบบบบบ
อันนี้ของยูเรียซัง
อาหารเกือบทุกอย่างในงานเป็นฝีมือของคุณแม่ยูเรียซังค่ะ ด้วยความที่เมืองโนโตะนี้มีเอกลักษณ์และอาหารเฉพาะตัวมากๆ ทำให้ต้องมีกูรูด้านนี้มาให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ ญี่ปุ่นเรื่องข้อมูลและการรีเสิร์ชก่อนทำงานจริงเค้าเป่ะมากนะ
เราเข้ามาในงานโดยไม่รู้จักใครในงานเลย แม้แต่ศิลปินเจ้าของงาน (≧∇≦)รู้แค่ว่าเค้าเป็นเพื่อนกับทากะมิเนะซังผู้กำกับโปรเจคเราเท่านั้น แต่พอยูเรียซังแนะนำเราว่าเป็นนักแสดงโปรเจคเมโลดี้คัพของทากะมิเนะซังเท่านั้นแหละทุกคนรู้จักทุกคนเคยดู ด้วยความที่ทากะมิเนะซังเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงมากในวงการศิลปะญี่ปุ่นและต่างประเทศเหมือนกับวงการนี้ทุกคนต้องติดตามผลงานของเค้าอะไรแบบนี้ หลายๆ คนแบบเธอเล่นซีนนี้ใช่ไหมฉันจำได้ไรงี้ !!! แหมมเขินเหมือนกันนะคะนะ
ส่วนขุ่นพ่อทากะมิเนะตอนนี้ย้ายไปทำโปรเจคที่เบอร์ลินค่ะ อยู่ยาวหลายปีเลย
อาหารพื้นบ้านโนโตะสไตล์ ผ้าปูโต๊ะเป็นกระดาษใช้เสร็จทิ้งได้เลย
เปิดงานโดยศิลปินเจ้าของงาน กล่าวเปิดงาน คุณพ่อของยูเรียซังพูดถึงเมืองโนโตะ และคุณแม่พูดถึงอาหารโนโตะ มีการฉายวีดีโอให้ดูและกล่าวขอบคุณทีมงานทุกคนหลังจากคัมปายกันเรียบร้อยก็ตะลุยกินนนน !!!! เห็นอาหารจานเล็กจานน้อยนั่นเราจะบอกว่ากินกันไม่หมดนะจ๊ะ
ยี่ห้อนี้แอบอร่อยและสีสวยมากกกก คิรินนะบอกเลย
ด้วยความที่เป็นพื้นที่ติดทะเลอาหารส่วนมากจะเป็นอาหารทะเลค่ะ โดยเฉพาะปลา !! ปลาบางชนิดมีให้กินได้ปีละครั้งเท่านั้นและแพงมากด้วยเราโชคดีที่มาช่วงนี้ได้กินปลาอร่อยปลาแพงและปลาปีละครั้ง (((o(*゚▽゚*)o)))
นอกจากปลาสดก็มีปลาแห้งหลากชนิดเอามาย่าง ปลาหมึกตากแห้งตัวใหญ่มากและอร่อยมาก แต่ที่เป็นเดอะเบสท์ออฟอาหารโนโตะคือออออ ..... Sea cucumber !!!! ด้วยความที่มันชื่อว่า Sea cucumber เราจะเข้าใจว่ามันคือผักเพราะมันคือแตงกวาทะเล !?!? เราก็กินอย่างเอร็ดอร่อย เพราะว่ามันอร่อย ! เมื่อกลับมาเกียวโตเล่าให้อายาริฟังว่าได้กิน Sea cucumber ด้วยนะอายาริตกใจเพราะไม่เคยกินถามเราว่าหน้าตาเป็นยังไงเราก็อธิบายไม่ถูกเพราะมันมาแบบถูกหั่นแล้วเลยลองเสิร์ชกูเกิ้ลดู กรี๊ดดดดดโทรศัพท์แทบร่วงจากมือ!! นี่กูกินอะไรเข้าไป๊ปปปป !!!!
ป.ล.ไปเสิร์ชดูกันเองตามอัธยาศัยเลยนะคะ แต่บอกเลยมันอร่อย ;^_^A
ซุปปลาสไตล์โนโตะ อร่อยมาก ปลาสดมาก
ส่วนของหวานปิดท้ายเป็นพลับตากแห้งคือตากกันจริงจังห้อยกันโตงเตงดูจากสภาพแล้วมันไม่ได้ชวนกินเลยจริงๆนะ
วิธีการกินของหวานชนิดนี้คือตัดออกจากเชือกที่ห้อย เอากรรไกรพลับให้เป็นชิ้นๆ แล้วกินกับครีมชีสหรือบลูชีสก็ได้ค่ะ แต่ส่วนตัวชอบครีมชีสมากกว่าเพราะมันหอมและมันกว่าบลูชีส
เห็นแบบนี้มันคือของหวานโดยแท้และแน่นอนแต่จะบอกว่ากินกับเบียร์มันเข้ากันมากกกกก นี่คือความแตกต่างทางวัฒนธรรมการกินอีกอย่างคนไทยกินเบียร์เหล้ากับอาหารรสจัด ส่วนญี่ปุ่นกินเบียร์กับชีส !!!
แต่ชีสญี่ปุ่นอร่อยมากๆ นะค่ะ
อันนี้เป็นพลับตากแห้ง
พลับตากแห้งกินกับบลูชีส หรือครีมชีสอร่อยมากกก
เสร็จงานปิดนิทรรศการประมาณ 4 ทุ่มเราเดินตากฝนกลับไปบ้านยูเรียซัง แล้วยูเรียซังก็พาพวกเราเดินตากฝนไปเซ็นโต้ (ห้องอาบน้ำสาธารณะ) แล้วพวกเราก็เดินตากฝนกลับมาที่บ้านยูเรียซัง เม้าท์มอย ซดเบียร์กันพักนึงก็ตาเริ่มปิดกันหล่ะ
พรุ่งนี้ตะลุยคานาซาว่ากันต่ออีกวัน ......
To be continue .......
1 comment:
เคยดูในสารคดีของNHK ลูกพลับตากแห้งบางบ้านแขวนเป็นมูลี่เลย แต่แบบ...น่ากินเอ่าะ
sea cucumberในอาหารจีนก้อมีนะ เคยกินตอนไปฮ่องกง อร่อยงะ เลยถามว่าอะไร พอรู้ก้อช็อคคคค
Post a Comment