หลังจากออกจากอังปังแมนมิวเซี่ยมแล้ว เราก็เดินมาเรื่อย ๆ เป้าหมายของตอนนี้คือ มินาโตะมิไร
เป็นที่ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของโยโกฮาม่า แถวนี้จะเป็นตึกออฟฟิศ ห้าง ร้านอาหารซะส่วนใหญ่ และด้วยความที่ติดท่าเรือ
วันหยุดหรือตอนเย็นเลิกงานก็จะเห็นว่ามีครอบครัว พนักงาานออฟฟิศมาเดินเล่นอย่างหนาแน่น
จุดสังเกตุของมินาโตะมิไรคือ ตึกแลนด์มาร์คทาวเวอร์ค่ะ อันนี้จะเป็นทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร
เรียกว่ามาที่เดียวเที่ยวได้หลายสิ่งทั้งช้อป ทั้งกิน
เป็นที่ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของโยโกฮาม่า แถวนี้จะเป็นตึกออฟฟิศ ห้าง ร้านอาหารซะส่วนใหญ่ และด้วยความที่ติดท่าเรือ
วันหยุดหรือตอนเย็นเลิกงานก็จะเห็นว่ามีครอบครัว พนักงาานออฟฟิศมาเดินเล่นอย่างหนาแน่น
จุดสังเกตุของมินาโตะมิไรคือ ตึกแลนด์มาร์คทาวเวอร์ค่ะ อันนี้จะเป็นทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร
เรียกว่ามาที่เดียวเที่ยวได้หลายสิ่งทั้งช้อป ทั้งกิน
เราเดินเรื่อย ๆ ชิวๆ ตามป้ายบอกทางมาประมาณ 20 นาทีก็มาถึงแลนด์มาร์กทาวเวอร์ ตรงนี้จะมีสถานีรถไฟใกล้ ๆ
มีสองสถานีคือ มินาโตะมิไร และ ซากุระกิโช แต่ก็เป็นสถานีเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มาก แนะนำว่าเดินเล่น ๆ จากสถานีโยโกฮาม่ามาดีกว่า
คือโดยส่วนตัวเราถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยวเราก็เลือกที่จะเดินชมเมืองในระยะทางใกล้ ๆ มากกว่าได้เห็นอะไรที่แปลกตาเพลินดี
จากตรงนี้เราจะเห็นคอสโมเวิร์ลด สวนสนุกขนาดย่อม ๆ มีเครื่องเล่นประมาณนึง แต่ก็นับว่าเป็นจุดขายของย่านนี้ค่ะ
เรียกว่าความเสียวระดับเด็กน้อย ฮ่าๆๆ คือสามารถเข้ามาได้ฟรีไม่เสียค่าเข้า แต่ถ้าจะเล่นเครื่องเล่นก็เดินไปจ่ายเงินที่ขายตั๋ว
และสามารถเล่นได้เลย ส่วนมากเป็นพวกม้าหมุน เครื่องเล่นหยอดเหรียญสำหรับเด็กอ่ะ เราไม่ได้เล่น นั่งไปพังแน่ ๆ
จากคอสโม่เวิร์ลดตรงนี้เราก็จะมองเห็นชิงช้าสวรรค์ อันนี้ก็เป็นจุดขายเหมือนกันนะเราว่าเพราะเวลากลางคืน
จะเปิดไฟประดับสวยมาก เหมาะกับการถ่ายรูป แถมแถวนี้ลมแรงเพราะติดทะเล อากาศจะเย็นหน่อย ๆ โรแมนติกสำหรับคู่รักมาก
เราเดินมาเรื่อย ๆ ก็จะผ่านราเมงมิวเซียม แบบที่เข้าไปดูประวัติและทำราเมงในแบบของตัวเองได้ฟรี แต่เราไม่ได้เข้าค่ะ เพราะไม่สนใจจริง ๆ
เดินมาเรื่อย ๆ ประมาณ 15 นาทีก็มาถึงเป้าหมายของเรานั่นคือ Yokohama Red Brick Warehouse นั่นเอง
เรียกว่ามารำลึกความหลัง เมื่อมีนาคม 2011 เราได้มาทำงานที่ตึกนี้เป็นเวลา 2 อาทิตย์ ทำงานกันตั้งแต่ เที่ยงวันยันเที่ยงคืน
กินนอนกันที่นี้เลย รู้สึกคิดถึงอยากเจออีกครั้งก็เลยกลับมา
ตึกแดงนี้จะติดอยู่กับท่าเรือค่ะ เมื่อก่อนเคยเป็นโกดังเก็บสินค้าของท่าเรือโยโกฮาม่า ตอนนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ในนี้จะมีทั้งร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ และมีโรงละครขนาดใหญ่อยู่ด้านบนค่ะ (เราทำงานที่โรงละครนี้แหละ)
ตอนนั้นที่มาเป็นฤดูหนาว ส่วนวันนี้เป็นฤดูร้อนที่ร้อนมากกกกก อากาศต่างกันอย่างลิบลับ
แต่ความรู้สึกคิดถึงยังคงเดิม ฮิ้วววววว....
หลังจากตึกแดงแล้ว เราเดินต่อไปเรื่อย ๆ มาที่ Yokohama international port terminal ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ที่ยื่นไปกลางทะเล
เราไม่แน่ใจเรื่องที่มาที่ไปของท่าเรือนี้เพราะไม่ชัวร์ภาษาอังกฤษ ไปอ่านเอาตามลิ้งค์นี้นะคะ ฮือๆๆ
http://www.osanbashi.com/en/outline/index.html
ด้านบนตอนนี้ก็จะมีร้านอาหาร และบาร์เบียร์ สำหรับคนที่มานั่งชิวยามเย็นค่ะ ห้ามปั่นจักรยานขึ้นไปเน้อ เอาจอดไว้ด้านล่าง
ถ้ายืนบนท่าเรือนี้มองไปด้านซ้ายจะเป็นมินาโตมิไร และถ้ามองไปทางด้านขวาจะเห็นสะพานคล้าย ๆ สะพานสายรุ้ง
ไม่แน่ใจว่าสะพานอะไรเช่นกันค่ะ ฮ่าๆๆๆ
แต่ถ้าใครมาที่โยโกฮาม่าแนะนำให้มาที่นี้ด้วยนะคะ เพราะสวยมากจริง ๆ เราเดินไม่ไหวแล้ว ร้อนด้วย ปวดขามากกก
รองเท้าไม่ซัพพอร์ต นี่ถึงขั้นถอดรองเท้าเดินเลย
เดินกลับมาที่สถานีซากุระกิโชเพื่อรออ้วนกลับบ้านด้วยกันตอน 6 โมง วันนี้ฟ้าโยโกฮาม่าสวยมากค่ะ
แต่นี้คือการสับขาหลอก ก่อนที่จะไต้ฝุ่นอย่างหนักหน่วงอีก 2 วันถัดมา ปวดใจจจจจ
วันนี้ไปละค่ะ พรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหนกันดี
No comments:
Post a Comment