เมื่อช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเราไปสมัครสอบวัดระดับมาค่ะ คิดว่าถ้าเรียนแล้วก็ต้องทำอะไรให้มันเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาบ้าง
คิดว่าการที่ร่ำเรียนมาก็พอสื่อสารได้บ้าง ย้ำว่าแค่ได้บ้างนะในระดับไม่อดตาย ไม่หลงทาง บอกความต้องการของตัวเองได้ คันจิอีกนิดหน่อย
ตอนนี้ก็ได้เวลาอันควรที่จะทดสอบตัวเองแล้ว ถ้าไม่เวิร์คก็ต้องพยายามให้มากขึ้น หรือถ้าเวิร์คก็ลุยต่อไปลุยไปเรื่อย ๆ
ตอนแรกผู้ชายยุว่าสอบ N4 ไปเลยไหม นับจากวันสมัครเราจะมีเวลาเตรียมตัวประมาณ 4 เดือน (สอบกรกฎาคม) ซึ่งเราไม่เอา ฮ่าๆๆ
เพราะเรารู้ตัวเองว่าเราขี้เกียจมากกกกก ซึ่งครั้งนี้ลงสอบ N5 ก็ยังไม่รู้ว่าจะรอดไหมเลยนะ ภาษาญี่ปุ่นนี่มันยากมากจริง ๆ
แล้วเราไม่ได้ลงเรียนที่ไหนด้วยอาศัยอ่านเอง คิดว่าไปช้าๆ แต่ไปอย่างชัวร์ ๆ ดีกว่า
สำหรับการสอบวัดระดับจะเปิดสอบปีละ 2 ครั้ง คือกลางปี กับ ปลายปี เรากะว่ากลางปีถ้า N5 ผ่าน ปลายปี N4 เจอกัน ฮึ้บบบ !!!
เราซื้อใบสมัครที่สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่นตรงซอยคอนแวนต์ค่ะ ในกรุงเทพมีขายไม่กี่ที่เองมั่งนะ เลือกที่สะดวกที่สุด ดูรายละเอียดได้ค่ะ
http://school.ojsat.or.th/jlpt.php
ตอนนี้ก็ถึงกับทำตารางการอ่านหนังสือออกมาเลยทีเดียว เพราะคิดว่าถ้าไม่ทำก็จะไม่มีวินัยกับตัวเอง ก็ทำดีกว่า
ตอนนี้ก็ได้รู้ซึ้งแล้วว่าาาาา ภาษาญี่ปุ่นยากมากกกกก นี่ขนาดเพิ่งเริ่มต้นก็ง่อยแดกแล้ว ไม่ต้องถามหา N4 เลยค่ะ เอานี่ให้รอดก่อนเลย
แค่กรอกใบสมัครก็ยากแล้วค่ะ ประมาณว่าเลข 9 ห้ามมีหาง เลข 1 ห้ามมีหัวไรงี้ รายละเอียดเยอะจริงก่อนกรอกอะไรลงไป ควรอ่านคู่มือดี ๆ
คิดว่าถ้าผ่านรอบนี้ ระดับต่อ ๆ ไปเราคงต้องไปลงเรียนแบบเป็นทางการแล้ว (รอบนี้ก็ขอให้ผ่านแล้วกันค่ะ ฮ่าๆๆๆ)
สำหรับผู้ชายรอบนี้นางสอบ N1 แล้วค่ะ นางผ่าน N2 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่นางทำงานหนักมากไม่มีเวลาอ่านหนังสือ
นางบอกไม่เป็นไร ทุกวันได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นก็เหมือนกับการอ่านหนังสือไปในตัวอยู่แล้ว ถ้าสอบผ่านได้นั่นหมายถึงมีโอกาสที่ดีมากขึ้นด้วย
ตอนนี้ก็เป็นกำลังใจให้กันในความพยายามเนอะ ได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องนึงค่อยว่ากันอีกที
จากนี้ก็พยายามกันต่อไปนะคะ
No comments:
Post a Comment