11 December 2013
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาไปวิ่งมาราธอนมาอีกแล้วค่ะ O.O คือจะบ้าพลังไปไหนไม่รู้นะ คราวนี้ไปวิ่งไกลเลย
"ระยองมาราธอน" จ้าาาาาา ได้รับการอุปการะเรื่องที่หลับที่นอนจากดีเจพี่แก้ว เราเสียแค่ค่ารถไประยอง
กับค่าสมัครมาราธอนเท่านั้นเอง งานนี้เรียกว่าคุ้มมากได้วิ่ง กิน เที่ยว เรียกว่า 3 in 1 นะ
ตอนแรกสองจิตสองใจว่าจะไปดีไหม คือมันไกลนะแค่คิดถึงการเดินทางก็ท้อแล้วอ่ะ แล้วยิ่งช่วงหยุดยาวด้วย
ฝูงชนมันต้องมหาศาลล้านแปดอ่ะ ยิ่งระยองเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วยแต่พี่แก้วสามารถจูงใจด้วยคำว่า
ผู้ชายกล้ามใหญ่ ๆ เยอะมากนะน้อง มาดิ! แค่คำนี้คำเดียวจริง ๆ พี่แก้วอ่ะบ้าเร่อะ!!! เค้าไปวิ่งเพื่อสุขภาพเฟร้ยยยย
กล้าม เกิ้มอะไรกั๊นนนนน!!!!
ไปถึงที่งานไปสมัครวิ่งก่อนเลยงานนี้ค่าสมัคร 200 บาทได้เสื้อยืดมา 1 ตัว
อยากได้เป็นเสื้อกล้ามนะแต่ไม่มี
สมัครเสร็จแล้วเราไปกินอาหารทะเลกันต่อ นี่กินจนเลี่ยนเลยอ่ะ
วันต่อมามองเห็นปลาหมึกแล้วส่ายหน้าเลย
กลิ่นและรสชาติของน้ำจิ้มซีฟู้ดติดปาก ติดตัวมาก ๆ ฮ่าๆๆ
วันนี้เพื่อนพี่แก้ว (ดีเจอำนาจ) มานอนกับพวกเราด้วย พวกเราวิ่งมินิมาราธอน
ปล่อยตัวตอน 6 โมงเช้า
เลยจะต้องตื่นประมาณตี 4 ครึ่ง ซึ่งสถานที่วิ่งจัดอยู่ใกล้ ๆ
กับบ้านพักของพี่แก้วเราแว้นซ์มอไซค์ไป 2 นาทีก็ถึง
ปล่อยตัวนักวิ่งตอน 6โมงเช้า เราวิ่งไปเรื่อย ๆ เส้นทางวิ่งเป็นภูเขา กับ ทะเล
คือวิ่งเลียบทะเลไม่เท่าไหร่จ๊ะ
แต่วิ่งเลียบภูเขานี่เล่นเอาแทบคลานเลยนะ
คิดภาพออกใช่ไหมมันจะมีเนินเป็นระยะ ๆ มีเนินทุก ๆ 2 กิโล
มันไม่หมูเหมือนวิ่งในกรุงเทพนะค๊าาาา
!!!! พอมันมีเนินเป็นระยะ ๆ ทำให้เราต้องชลอเป็นระยะ ๆ เช่นกัน
แอบเห็นผู้ชายอกสามศอก ตายอยู่หลาย ๆ
เนินนะคะ ฮ่าๆๆๆ
CR.รูปจาก Shutterrunning
(ลบเวลากล้องออกไป 2 ชั่วโมงนะคะ)
เราเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1.17 นาทีค่ะ
พี่อำนาจเข้า 1.19 ส่วนพี่แก้วเข้า 1.30 ประมาณนั้น พี่แก้วกับพี่อำนาจ
วิ่งมาราธอนเป็นครั้งแรก
แต่ก็ทำเวลาได้ดีพอสมควรเลย
แถมยังบอกด้วยว่าจะไปหัดวิ่งมาราธอนให้พร้อมกว่านี้
แล้วปีหน้าจะมาวิ่งใหม่รู้สึกดีกับตัวเองที่วิ่งได้ขนาดนี้
หนังเรื่องรัก 7 ปีดี 7 หนบอกว่าวิ่งแล้วจะพบชีวิตใหม่
เราว่าจริงเลยนะ
แต่ไม่ต้องแค่การวิ่งอย่างเดียวหรอก
วันไหนที่เราตัดสินใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งนั่นถือว่าพบชีวิตใหม่แล้ว
เราเห็นข้อแตกต่างของบรรยากาศการวิ่งในกรุงเทพ กับวิ่งต่างจังหวัด
คือวิ่งในกรุงเทพนี่เจอถนนใหญ่ รถรา
ไม่มีคนออกมาดูการวิ่ง
เพราะคนกรุงอ่ะนะทำงานมาทั้งอาทิตย์ฝ่ารถติดทุกวันมันก็เหนื่อยพอวันหยุดก็อยากนอนตื่นสาย
แต่วิ่งต่างจังหวัดนี่ชาวบ้านจะตื่นเช้ามาก
ออกมาเชียร์เต็มสองข้างทางเปิดเพลงเต้นแต่งตัวแฟนซีกันสุดฤทธิ์
นี่ถ้าไม่ติดว่าจะวิ่งทำลายสถิติตัวเองแล้วละก็จะลงไปเต้นด้วยเลย
วิ่งเสร็จเราก็หาอะไรกินมีหลาย ๆ
องค์กรเอาอาหารมาเลี้ยงนักกีฬาคือเดินกินฟรีกันจนพุงกางอ่ะนะ
เอ็นจอยอีทติ้งมากๆ
อาหารก็มีหลากหลาย ข้าวต้ม, ก๋วยเตี๋ยว, ขนมจีน ฯลฯ
เรากินข้าวต้มกับก๋วยเตี๋ยวไปว่าจะไปกินขนมจีนอีกรอบ
แต่อิ่มมากไม่ไหวแล้ว กินเสร็จเดินไปดูอควอเรี่ยมต่อค่ะ
(เดี๋ยวอัพไดอควอเรี่ยมพรุ่งนี้นะรูปเยอะมากกกกก)
หลังจากดูอควอเรี่ยมเสร็จก็มาถึงสิ่งที่รอคอยที่สุดของวันนี้คือการไปดูแข่งไตรกีฬานั้นเอง
พี่แก้วโฆษณาชวนเชื่อไว้
ว่าผู้ชายที่แข่งไตรกีฬากล้ามใหญ่ ๆ ทั้งนั้นนะ ตรงตามจุดประสงค์เป่ะ
น้ำเนิ้มไม่อาบจ้าาาา ไปดูกล้ามผู้ชายก่อน
ไตรกีฬาคือการแข่งกีฬา 3 อย่างในอย่างเดียว งงไหม? มีว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน
และวิ่ง ว่ายน้ำที่นี่คือว่ายจากฝั่ง
เกาะเสม็ด มาขึ้นฝั่งบ้านเพ ไปปั่นจักรยานต่อ กลับมาไปวิ่งอีก 5 กิโล
อันนี้ไม่ดูว่าใครเข้าเส้นชัยก่อนหลังนะ
แต่เค้าจะมี GPS ติดไว้ที่ตัวนักกีฬาคือวัดกันที่ใครทำเวลาได้ดีที่สุด
เรายืนปักหลักกันตรงที่นักกีฬาขึ้นมาจากน้ำ
ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ค่อนข้างดี (คือส่องผู้ชายได้ชัดนั่นเอง)
ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ นะฮ้าาาาา
พี่ติ๊นาเคยร้องไว้ว่า อย่ามองตรงนั้น ๆ ๆ จะเป็นเรื่องใหญ่ แหมๆๆๆ
มันห้ามกันไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เค้าหมายถึงซิกแพคนะ
ยกแขนเสื้อปาดเลือดกำเดากันตลอดเวลา
กล้ามใหญ่ๆ ของผู้ชายยังไง๊ ยังไงก็ไม่เท่าเด็กค่ะ ฮ่าา เราชอบเด็ก ไปเจอน้องชายคนนึงหล่อโฮกกกกก
ตอนแรกเราเฉย ๆ นะแต่น้องเล่นยกมือไหว้ทุกคนเลย แถมฉีกยิ้มหวานให้อีก
(อนาคตไกลนะลูกนะ)
พอเห็นน้องยิ้มเท่านั้นแหละ
ใจมันละลายไม่ไหวแล้วขอป้าถ่ายรูปคู่ด้วยหน่อยเหอะนะๆๆๆ
ฮืออออ อยากเกิดช้ากว่านี้ซัก 20 ปี !!!!
No comments:
Post a Comment